Friday, January 30, 2015

10 วิธีมหัศจรรย์ ทำให้เรื่อง “บ้าน”ง่ายขึ้นเยอะ

10 วิธีมหัศจรรย์ ทำให้เรื่อง “บ้าน” ง่ายขึ้นเยอะ
Sanook!Home เข้าใจหัวอกคุณแม่ หรือคุณพ่อบ้าน หรือใครก็ตามที่ต้องดูแลทุกเรื่องในบ้าน เนื่องจากเรื่อง “บ้าน” เป็นเรื่องที่มีความละเอียดลออมากมาย ก่ายกอง ทั้งงานบ้าน งานสวน งานครัว งานซ่อมแซม โอ้ย… เต็มไปหมด
ต่อไปนี้หายห่วงกับเรื่องที่เคยยากๆ แล้วหันมาดูเทคนิคเรื่องเคยยาก ที่ Sanook!Home นำเสนอวิธีง่ายแบบไม่ให้คุณแม่บ้านต้องปวดหัวกับเทคนิคงานบ้านสารพัดอย่าง พร้อมแล้วไปทำงานบ้านแบบฉลาดๆ กันดีกว่าค่ะ
1. หยุดปัญหาสีทาบ้านด้วยหนังยาง : พอกันทีกับแปรงทาสีที่เวลาจุ่มสีทาบ้านทีไร เป็นอันต้องหยดเลอะพื้นบ้าน สร้างปัญหาเรื่องการทำความสะอาดบ้านตามมาที่หลังด้วยการขึงยางครอบกระป๋องสี ตามแนวตั้งของกระป๋อง เวลาใช้แปรงจุ่มสีแล้วเวลายกก็นำแปรงไปปาดกับขอบยาง เพียงเท่านี้สีจากแปรงก็จะไม่หกเลอะเทอะอีกต่อไป
2. คลิปช่วยโลก : เป็นปัญหาโลกแตก สำหรับการหาตำแหน่งสิ้นสุดของเทปกาว จริงๆ ผู้ผลิตเทปกาวขายน่าจะหาคิดค้นวิธีหาจุดสิ้นสุดของเทปกาวมาด้วย เลยต้องเดือดร้อนผู้ใช้อย่างเราๆ ที่เวลาจะใช้ทีไร ใช้เล็บแคะ แกะ จนบางครั้งเทปกาวย่น ขาด เสียของ นี่เลยค่ะ คลิปช่วยคุณได้ทุกอย่าง เพียงนำคลิปหนีบกระดาษแบบที่เราๆ เห็นทั่วไป แปะลงบนส่วนปลายของเทปกาวที่เราใช้ จากนั้นก็ปิดเทปกาวลงบนม้วนเทปปกติ ถึงเวลาใช้งานครั้งหน้า ก็คลำหาจุดที่คลิปติดอยู่ เป็นไงคะ ง่ายนิดเดียว
ภาพจาก http://www.secretsofthefed.com
3. เทปตีนตุ๊กแกกันลื่น : คุณแม่บ้านคงรำคาญเวลาลูกๆ หรือสัตว์เลี้ยงในบ้านวิ่งเล่นในบ้าน แล้วไม่วายที่จะต้องไปสัมผัสกับพรมที่ปูพื้นไว้ บางทีก็ลื่นไหลจากพื้น บางทีก็หลุดจากตำแหน่งที่วางไว้ ทำให้การตกแต่งบ้านไม่สวยงามเหมือนอย่างเคย ชีวิตไม่ยากค่ะ ท่องไว้… เทปตีนตุ๊กแกช่วยคุณได้อีกเช่นเคย รู้จักกันไหมคะ เทปที่เป็นเส้นสีดำๆ มีส่วนที่ยึดติดกัน เราก็นำส่วนหนึ่งติดกับทั้งสี่มุมของพรม ส่วนอีกชิ้นหนึ่งก็ติดกับพื้น คราวนี้ต่อให้บรรดาลิงทโมนในบ้านวิ่งเล่นกันแค่ไหน พรมก็จะไม่แยกจากพื้นอย่างเด็ดขาด
4. ไหมขัดฟันหั่นเค้ก : ว้าย! อย่าเข้าใจผิดนะคะ เราไม่ได้นำไหมที่ใช้ขัดฟันแล้วมาใช้อีกครั้ง แบบนั้นคุณแม่บ้านต้องขอบาย แต่เราจะนำไหมขัดฟันใหม่ๆ ดึงออกมาจากที่เก็บ สำหรับคุณแม่บ้านที่อยากจะผ่าเค้กแบบครึ่งก้อน ให้ใช้ไหมขัดฟันพันรอบก้อนเค้ก แล้วก็ดึงปลายไหมขัดฟันเข้าด้วยกัน เพียงเท่านี้เราก็จะได้เค้กแบบผ่าครึ่งตามต้องการแล้วค่ะ
5.จุดไฟด้วยเส้นสปาเก็ตตี้ : เวลาจะจุดเทียนหอมสร้างบรรยากาศโรแมนติกในบ้านทีไร มือแทบพองจากไม้ขีดไฟ หรือไฟแช๊ค เลิกจุดเทียนด้วยวิธีเดิมๆ ได้แล้วค่ะ ถ้าในครัวมีเส้นสปาเก็ตตี้แบบแท่งยาวๆ เราจุดไฟที่ปลายเส้น แล้วนำไปจุดที่เทียนอีกที แหม… ไม่คิดว่าจะง่ายแบบนี้เลย รู้แบบนี้ทำมานานแล้ว ทนให้มือร้อนอยู่ได้
6. ป้องกันปลั๊กหลุด : หลายต่อหลายครั้งที่ปลั๊กเชื่อมต่อหลุดออกจากกัน อันนี้เป็นวิธีที่ง่ายมากค่ะ เพียงแค่ผูกปลั๊กเชื่อมทั้งสองไว้ด้วยกัน เพียงเท่านี้มันก็ไม่หลุดออกจากกันแล้วจ้า
7. ปอกเปลือกไข่ง่ายด้วยเบกกิ้งโซดา : เทคนิคชีวิตง่ายข้อนี้คุณแม่บ้านหลายท่านคงรู้กันอยู่แล้ว ว่าการต้มไข่โดยการใส่เบกกิ้งโซดา หรือผงฟูลงไปด้วย จะทำให้ปอกเปลือกไข่ต้มได้ง่ายขึ้น ไข่ที่ได้ก็จะออกมาสวยงาม น่ารับประทาน
8. โหมดเครื่องบินประหยัดเวลา : การชาร์ตแบตเตอรี่มือถือในขณะที่กำหนดโหมดมือถือให้อยู่ในโหมดเครื่องบิน จะทำให้เราสามารถชาร์ตแบตมือถือได้เร็วยิ่งขึ้น
ภาพจาก http://imgur.com/gallery/9cqSQ
9.เพิ่มกลิ่นหอมให้ห้องน้ำด้วยกระดาษทิชชู : วิธีง่าย ๆ ที่คุณแม่บ้านทุกคนทำได้ คือการหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบลงบนกระดาษทิชชูในห้องน้ำ กระดาษทิชชูจะซึมซับกลิ่นหอมเหล่านั้น แล้วทำให้ห้องน้ำหอมฟุ้งสดชื่น โดนใจ
10.เปลี่ยนที่เก็บขวดไวน์เป็นที่เก็บผ้าเช็ดตัว : หากที่บ้านใครมีที่เก็บขวดไวน์แบบแขวน สามารถเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นที่เก็บผ้าเช็ดตัวในห้องน้ำได้เช่นกัน สร้างความเป็นระเบียบและสวยงามอีกด้วย
เรียบเรียงข้อมูลจาก http://www.it24hrs.com

Thursday, January 29, 2015

มหาวิทยาลัยเอกชนที่ดีที่สุดในประเทศไทย

ที่มา : www.webometrics.info/en/asia/thailand
ทุกวันนี้มหาวิทยาลัยในประเทศไทยนี่มีเยอะมากๆ เอาซะจนเลือกเรียนกันไม่ถูกเลย ซึ่งก็มีทั้งของรัฐบาล และเอกชน ซึ่งแต่ก่อนคนมักจะคิดว่ามหาวิทยาลัยเอกชนนั้นเหมาะสำหรับคนที่เรียนไม่เก่ง สอบไม่ติด แต่จริงๆแล้วทุกวันนี้มีหลายคนเลือกที่จะเรียนเอกชนโดยตรง เพราะแน่นอนว่าความเป็นทางด้านภาษานั้นดีเยี่ยม แถมครู อาจารย์ทั้งหลายยังผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี รับรองว่าจบมาต้องเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพชัวร์ๆ วันนี้เราเลยนำเอา 10 อันดับของมหาวิทยาลัยเอกชนที่ดีที่สุดในประเทศไทยมาฝากกัน เผื่อใครสนใจอยากจะไปเรียน..
อันดับ 10 มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ (Huachiew Chalermprakiet University)
หลายคนคงไม่รู้ว่า “หัวเฉียว” เนี่ยเป็นภาษาจีนซึ่งแปลว่า ชาวจีนโพ้นทะเล โดยเป็นมหาวิทยาลัยที่มีรากฐานมาจากพลังศรัทธา และการบรรเทาสาธารณภัยเพื่อมวลชน ของ “มูลนิธิฮั้วเคี้ยวป่อเต็กเซี่ยงตึ๊ง” ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยปัจจุบันหลักสูตรของมหาวิทยาลัยนี้มีไปจนถึงระดับปริญญาเอก แถมยังมีหลักสูตรนานาชาติให้เรียน ทำให้ในปี 2557 มหาวิทยาลัยแห่งนี้ติดอันดับที่ 50 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศไปครอง

ขอบคุณภาพจาก http://www.academic.hcu.ac.th/
อันดับ 9 มหาวิทยาลัยศรีปทุม (Sripatum University)
เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยมจริงๆ เพราะปัจจุบันได้เปิดแล้วถึง 4 วิทยาเขต!! ที่มีทั้งจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดชลบุรี โดยในปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็ได้อยู่ในอันดับที่ 48 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศไทย เพียงเท่านี้ก็น่าจะการันตีคุณภาพของเด็กๆที่จบไปได้แล้ว ว่าไม่ใช่ขี้ๆนะจ๊ะ

ขอบคุณภาพจาก http://202.28.32.22/msuact/index.php?mode
อันดับ 8 มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต (Kasem Bundit University)
สำหรับอันดับที่ 8 ของเราก็ตามมาอย่างติดๆ เพราะในปีที่แล้วมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตก็อยู่ในอันดับที่ 47 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศไทย โดยที่นี่ก่อนจะมาเป็นมหาวิทยาลัยก็ได้เปิดเป็นโรงเรียนในระดับประถม และมัธยมศึกษา มาก่อน ก่อนจะพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ที่มีด้วยกัน 2 วิทยาเขต

ขอบคุณภาพจาก http://commons.wikimedia.org/wiki/File:Kasem_Bundit_Univ_Bangkok.JPG
อันดับ 7 มหาวิทยาลัยพายัพ (Payap University)
ที่นี่คือมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกในภาคเหนือ ที่ก่อตั้งมากว่า 40 ปี ก่อกำเนิดมาจากคริสต์ศาสนานิกายโปรเตสแตนทเข้ามาประกาศเผยแพร่ครั้งแรกในประเทศไทย เริ่มแรกใช้ชื่อว่า “วิทยาลัยคริสเตียนพายัพ” ต่อมาจึงได้ขยับขยาย เพิ่มวิชาสาขาเข้าไปเพิ่ม ทำให้มหาวิทยาลัยนี้ ติดอยู่ในอันดับที่ 44 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศไทย ซึ่งไม่ได้ดีแต่การเรียนการสอนเท่านั้น แต่บรรยากาศยังดีสุดๆไปเลย!!

ขอบคุณภาพจาก http://www.elearneasy.com
อันดับ 6 มหาวิทยาลัยสยาม (Siam University)
หลายคนคงยังไม่รู้ว่าก่อนจะมาเป็นมหาวิทยาลัยสยาม ที่นี่เคยเป็นวิทยาลัยเทคนิคมาก่อน ซึ่งในตอนนั้นได้เปิดสอนเฉพาะสาขาช่าง ที่มีเพียงช่างเครื่องยนต์หลักสูตรอนุปริญญา แต่ทุกวันนี้ที่นี่เปิดสอนแม้กระทั่งคณะเภสัชศาสตร์ ที่ถือเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกที่เปิดเลยก็ว่าได้ งานนี้เลยไม่ต้องสงสัยว่าทำไมถึงมาอยู่อันดับที่ 6 ได้ จริงมั้ยคะ?

ขอบคุณภาพจาก http://www.siam.edu
อันดับ 5 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (Mahanakorn University of Technology)
ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2533 โดยใช้ชื่อ “วิทยาลัยมหานคร” ซึ่งอยู่ในยุคที่กำลังขาดแคลนวิศวกร ที่นี่จึงเปิดสอนเฉพาะ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ต่อมาจึงได้ขยายสาขา และกลายมาเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครเหมือนในทุกวันนี้ แน่นอนว่าคุณภาพของที่นี่เค้าก็แน่นปึ้ก!! ในปีนี้จึงอยู่ในอันดับที่ 33 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศไทยด้วยน้า..

ขอบคุณภาพจาก http://www.manager.co.th/Campus/
อันดับ 4 มหาวิทยาลัยหอการค้า (University of the Thai Chamber of Commerce)
จะเรียกว่าที่นี่เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านธุรกิจในเอเชียก็ว่าได้ เพราะเด็กที่จบมาจากที่นี่มีอัตราในการจ้างงานที่ค่อนข้างสูง!! ด้วยความที่เป็นสถาบันที่เปิดมานาน มีความน่าเชื่อถือ และแน่นอนว่ามีคุณภาพ โดยในปีที่ผ่านมามหาวิทยาลัยหอการค้าก็ติดอันดับที่ 31 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศไทยซะด้วย

ขอบคุณภาพจาก https://blog.eduzones.com/futurecareerexpo/
อันดับ 3 มหาวิทยาลัยรังสิต (Rangsit University)
มาถึง 3 อันดับสุดท้ายของเราแล้ว และอันดับ 3 ก็ตกเป็นของมหาวิทยาลัยรังสิต แถมยังได้รับการประเมินจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ให้เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนเพียงแห่งเดียวที่ได้รับการจัดให้อยู่ในระดับ ดีมาก!! ในกลุ่มสถาบันที่เน้นการผลิตบัณฑิต และยังติดอยู่ในอันดับที่ 30 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศไทย และหากใครอยากเจอ ดารา นักร้อง ที่นี่มีเพียบ!!

ขอบคุณภาพจาก https://blog.eduzones.com/enn/
อันดับ 2 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (Bangkok University)
อันดับ 2 ของเราในครั้งนี้จะเป็นมหาลัยวิทยาลัยอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ!! ที่ถือได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงสุดๆ ซึ่งปัจจุบันก็มีอยู่ 2 วิทยาเขต นั่นก็คือ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท และวิทยาเขตรังสิต ที่ที่ไม่ได้มีดีแค่ความทันสมัย แต่เรื่องการเรียนที่นี่ก็ติดอันดับที่ 29 ของมหาลัยที่ดีที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย

ขอบคุณภาพจาก http://www.mbanewsthailand.com
อันดับ 1 มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (Assumption University of Thailand)
คงไม่ต้องเดากันเลยใช่มั้ยคะว่าอันดับ 1 ของเราจะเป็นมหาวิทยาลัยอะไร..นั่นคือ “มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ” หรือที่เราเรียกกันจนติดว่า “เอแบค (ABAC)” นั่นแหละค่ะ ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทยที่มีระบบการสอนหลักสูตรนานาชาติ และมีจำนวนศาสตราจารย์มากที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย!! ส่วนด้านความสวยงามคงไม่ต้องพูดถึง เพราะตึกแต่ละตึกเนี่ยไฮโซกันทั้งนั้น และที่สำคัญใครที่จบมาจากที่นี่สามารถการันตีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้ด้วย และด้วยมาตรฐานระดับโลกจึงทำให้มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญติดอยู่ในอันดับที่ 18 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศไทยไปครอง

ขอบคุณภาพจาก http://www.admissions.au.edu/

10 อันดับที่ Check-In ยอดนิยมใน Instagram ปี 2014!!

ที่มา : http://instagram.kapook.com/view106311.html
ทุกคนคงรู้จักแอพฯสุดฮิตอย่าง "Instagram" กันดี ซึ่งในปีนี้ทางอินสตาแกรมได้ประกาศ 10 อันดับสถานที่ถ่ายภาพยอดนิยมประจำปี 2014 จากข้อมูลของ Geotagged ของผู้ใช้อินสตาแกรมทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยของเราก็ติดอันดับมาเกือบทุกปี โดยปีที่แล้วอันดับ 1 ก็คือ สยามพารากอนของเรานั่นเอง และในปี 2012 ก็คือสนามบินสุวรรณภูมิของเรานั่นเอง!! โดยปีนี้ใครจะกวาดที่ 1 ไป มาดูกันเลย
อันดับ 10 ดูไบมอลล์ (The Dubai Mall)
เรียกได้ว่าเป็นที่ที่ต้องไปเมื่อคุณไปเที่ยวที่ดูไบ เพราะมันเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุด ที่มีทั้งลานสเก็ตน้ำแข็งมาตรฐานโอลิมปิก ไปจนถึงศูนย์รวมแฟชั่น นอกจากนั้นยังมีเดอะ ดูไบ อควาเรียม แอนด์ ดิสคอฟเวอรี่ เซ็นเตอร์ ที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลกจากการทำสถิติ “ตู้กระจกอะคริลิกขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมถึงติด 1 ใน 10!!

ขอบคุณภาพจาก http://www.abroadtour.com
อันดับ 9 แยงกี้ สเตเดียม (Yankee Stadium)
เป็นสนามเบสบอลที่มีชื่อเสียงสุดๆ ไม่ว่าใครได้ไปที่นิวยอร์คก็คงอยากจะไปเยือนที่แห่งนี้ ด้วยความที่ประเทศนี้เค้าเด่นดัง เรื่องเบสบอลเอามากๆ เลยไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่แท็กสถานที่นี้ไปจะเป็นใคร ก็เป็นพวกแฟนๆของกีฬาชนิดนี้ ที่ลงทุนไปดูการแข่งขันถึงที่ ทำให้ที่นี่อยู่ในอันดับที่ 9 นั่นเอง

ขอบคุณภาพจาก http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/pre-season-usa-denmark-and-back
อันดับ 8 เมดิสันสแควร์การ์เดน (Madison Square Garden)
อีกหนึ่งที่เด็ดของชาวนิวยอร์คเค้าแหละ แถมที่นี่ยังเป็นสนามกีฬาในร่มที่ทำขึ้นมาเพื่อเอาใจคอกีฬาทั้งหลาย เพื่อที่จะไม่ต้องกลัวว่าสภาพอากาศจะไม่เป็นใจในการดูกีฬา แถมบางครั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตชั้นยอด ที่สามารถจุคนได้มากถึง 30,000 คนเลยทีเดียว นี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุให้คนถ่ายรูป และแท็กที่นี่เยอะ ก็แหมใครมาดูกีฬาหรือคอนเสิร์ตก็ต้องอยากอวดชาวโลกกันทั้งนั้น

ขอบคุณภาพจาก http://indianexpress.com/
อันดับ 7 จัตุรัสแดง (Red Square)
ที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และสวยงามสุดๆ ที่ไม่ว่าใครได้ไปเที่ยวที่มอสโก ประเทศรัสเซีย แล้วล่ะก็จะต้องมีการถ่ายรูปไปอวดประชาชีอย่างน้อยๆก็หนึ่งรูปแหละ เพราะด้วยความที่สีสันมันก็สวยงาม บรรยากาศก็ดี ใครไม่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก็ถือว่าแปลก จึงทำให้มาติดอยู่ในอันดับ 7 ไปได้แบบสบายๆ

ขอบคุณภาพจาก http://commons.wikimedia.org/
อันดับ 6 พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre)
เชื่อว่าที่นี่ต้องเป็นที่เที่ยวในฝันของใครหลายคนแน่ๆ เพราะด้วยความสวยงามของประเทศฝรั่งเศส ที่มีอะไรให้เที่ยวให้ชมเยอะ แต่ทุกที่ก็ต้องแพ้ให้กับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ซึ่งใครที่ไปก็ต้องถ่ายรูปกับเจ้าหลังคาสีใส สามเหลี่ยมนี้แน่ๆ และเชื่อเถอะค่ะว่า 100 ทั้ง 100 ก็ต้องโพสต์รูปสวยๆนี้ลงไอจีแล้วแท็กชัวร์ๆ

ขอบคุณภาพจาก http://phathaimas98.wordpress.com/
อันดับ 5 สวนสนุกกอร์กี้พาร์ค (Gorky Park)
มาถึงอันดับที่ 5 กันแล้ว กลับเป็นที่ที่หลายคนคาดไม่ถึง อย่างสวนสนุกกอร์กี้พาร์คในรัสเซีย ที่เป็นสวนสนุกริมน้ำ ที่มีบรรยากาศน่าตื่นตาตื่นใจ จนบางคนเลือกที่จะนั่งชิวถ่ายรูป จิบชาท่ามกลางสวนดอกไม้สวยๆซะมากกว่าไปเล่นเครื่องเล่น และแน่นอนว่ากิจกรรมที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายต้องทำนั่นก็คือการถ่ายรูปนั่นเอง!! ด้วยจำนวนคนที่ไป และรูปที่ถ่ายอย่างมหาศาลทำให้ที่นี่ได้อันดับ 5 ไปครอง

ขอบคุณภาพจาก http://interacticity.net/gorky-park/
อันดับ 4 สยามพารากอน (Siam Paragon)
ในปีนี้ประเทศไทยของเราก็ติดอันดับ 4 จากห้างชั้นนำอย่างสยามพารากอน ที่เชื่อเลยว่าไม่ว่าจะเป็นคนไทย คนต่างประเทศ หรือนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมา ทุกคนต้องไปช้อปที่นี่ ด้วยความใหญ่เว่อร์วัง ที่เป็นศูนย์รวมทุกอย่าง แถมยังมีมุมถ่ายรูปที่หลากหลาย ทำให้ใครๆก็แท็กที่นี่ ไม่เชื่อคุณก็ลองเปิด IG ตัวเองสิคะ คุณก็เป็นหนึ่งในคนที่แท็กชัวร์ๆ

ขอบคุณภาพจาก http://www.techxcite.com/topic/15427.html
อันดับ 3 ไทม์สแควร์ (Times Square)
เรียกได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญของโลกก็ได้ เพราะไม่ว่าจะมีงานอะไรคนก็มักจะไปรวมตัวกันที่นี่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงวันคริสต์มาส หรือปีใหม่ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวแล้วล่ะก็ไม่ว่าจะไปช่วงไหนก็สามารถถ่ายรูปและแท็กไปอวดชาวบ้านเค้าได้ ว่าครั้งหนึ่งเราเคยมาเหยียบที่นี่นะ จึงไม่แปลกเลยที่ถนนเส้นนี้จะติดอันดับ 3 ไป!!

ขอบคุณภาพจาก http://mic.com/articles/77829/this-is-what-times-square-looked-like-back-in-1904
อันดับ 2 ดอดเจอร์ สเตเดียม (Dodger Stadium)
ถ้าพูดถึงสิ่งที่คนอเมริกันช๊อบ..ชอบก็คงไม่พ้นกีฬายอดฮิตอย่างเบสบอล จึงทำให้สนามเบสบอลสุดใหญ่ยักษ์ ณ ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกาเป็นที่ที่คนแท็กเยอะที่สุดใน IG เป็นอันดับ 2 ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะมีคนไปดูกีฬาที่มีปีละหลายล้านคน!! เลยทีเดียว

ขอบคุณภาพจาก http://www.levyrestaurants.com/venues/dodger-stadium/
อันดับ 1 ดิสนีย์แลนด์ (Disneyland)
อันดับ 1 ของเราคงไม่ต้องสงสัยกัน เพราะมันคือสวนสนุกระดับโลก ที่ไม่ว่าจะเด็กหรือแก่ก็ต้องอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต ถึงแม้ว่าจะมีหลายที่ หลายสาขาอยู่ตามทั่วโลก ก็ไม่ได้ทำให้ความนิยมของดิสนีย์แลนด์ ที่แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกามีคนมาเที่ยวน้อยลงเลย ซึ่งด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เยอะเหลือเกิน ทำให้ที่นี่กลายเป็นที่ที่คนแท็กรูปเยอะที่สุดในโลกไปครอง

ขอบคุณภาพจาก http://www.coastanabelle.com/safari/packages-specials/packages-disneyland

10 อันดับ ที่เที่ยวสุดชิคที่คนไทยต้องไป

ที่มา : ToptenThailand
หลายคนคงสงสัยและอยากรู้ใช่มั้ยคะ ว่าในปีที่ผ่านมาเนี่ย มีที่เที่ยวที่ไหนที่คนไทยชอบไปเที่ยวกันเยอะๆ วันนี้ทางทีมงาน Toptenthailand จึงได้จัด 10 อันดับ ที่เที่ยวสุดชิคที่คนไทยต้องไปปี 57 มาฝากกัน เผื่อว่าใครไม่อยากจะตกเทรนด์ก็ต้องรีบตามไปเที่ยวกันหน่อยล่ะ!!
อันดับ 10 TrueLove Cafe @ Neverland Siberians
ที่นี่เอาใจคนรักน้องหมาสุดๆ โดยเฉพาะพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ ที่รับรองว่าคนรักสัตว์ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นแค่ฟาร์มเลี้ยงหมาเท่านั้น แต่ยังเป็นคาเฟ่ มีน้ำ และอาหารให้ได้รับประทานกัน และที่สำคัญยังสามารถเข้าไปเล่น คลุกคลีกับน้องหมาได้อย่างไม่ต้องกังวล ใครรักสุนัขล่ะก็ต้องห้ามพลาดเลยนะคะ

ขอบคุณภาพจาก http://www.thailandfans.com/blogs
อันดับ 9 บ้านตีลังกา
เป็นสถานที่ที่สร้างความฮือฮาได้อย่างมาก เพราะถือว่ามีแนวคิดที่แปลกใหม่สุดๆ โดยการสร้างบ้านขึ้นมาแต่!! เป็นบ้านที่ทุกอย่างกลับหัวกลับหางไปหมด ทำให้ใครที่เดินเข้าไปจะต้องสะดุดตากับเฟอร์นิเจอร์ที่ลอยอยู่บนหัวคุณ และแน่นอนว่าคุณจะต้องรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปคุณกับบ้านตีลังกานี้อย่างรัวๆ

ขอบคุณภาพจาก http://www.xn--12c7bh8aza5dya0g8c.com/thai-trip.php
อันดับ 8 พิพิธบางลำพู
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เบื่อชีวิตเมืองกรุง เพราะที่นี่จะพาท่านย้อนยุคกลับไปชมประเทศไทยในสมัยก่อน โดยเฉพาะแถวๆย่านบางลำพู ซึ่งท่านจะได้ทั้งความรู้ ความเพลิดเพลิน และได้เห็นบรรยากาศจำลองในสมัยก่อน ที่หาดูจากที่ไหนไม่ได้แล้ว...อย่างนี้นี่เองคนไทยอย่างเราๆจึงต้องไป!!

ขอบคุณภาพจาก http://www.manager.co.th/Travel/
อันดับ 7 เจ-พาร์ค ศรีราชา
ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่อยากจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แต่งบดันไม่อำนวย เพียงแค่คุณแวะมาที่นี่ก็เหมือนได้ไปเดินอยู่ญี่ปุ่นแล้ว เพราะที่นี่ตกแต่งแบบสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ทั้งตึกราม โคมไฟ สวนหย่อม ไปจนถึงการจำลองวัดทองในเกียวโตให้มาอยู่ที่ศรีราชาอีกด้วย และที่สำคัญที่นี่ยังรวบรวมร้านอาหาร ร้านค้าที่ขายแต่ของญี่ปุ่นเป๊ะๆมาให้คุณได้ช้อปกันอย่างจุใจ

ขอบคุณภาพจาก http://www.chillpainai.com/scoop/1865/J-Park
อันดับ 6 Camel Republic
พูดได้เลยว่าแค่เห็นจากภาพถ่ายก็อยากจะไปเที่ยวให้เร็วๆแล้ว เพราะสีสันของที่นี่สดใสสุดๆ ถ่ายรูปออกมาคงจะสวยไม่น้อย สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก ต้องบอกว่าที่นี่เป็นทั้งสวนสนุก และสวนสัตว์ที่ออกแบบให้เป็นสไตล์โมร็อคคัน ถ้าใครเบื่อเครื่องเล่นแบบเดิมๆต้องมาที่นี่ เพราะมีแต่เครื่องเล่นหวาดเสียว แบบใหม่ที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหน แถมยังมีสัตว์หลากหลายชนิดให้เดินชมแบบชิวๆด้วย

ขอบคุณภาพจาก http://www.tlcthai.com/travel
อันดับ 5 Harbin Ice Wonderland
แหม..ไหนๆเราก็มีเมืองหิมะมาตั้งอยู่ในกรุงเทพทั้งที คนจะไม่แห่แหนกันไปรับความเย็นได้ยังไง แถมที่นี่ยังเดินทางสะดวกสุดๆ เพียงแค่นั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสไปลงสถานีแบริ่ง ก็จะเจอกับทางเข้าแล้ว แถมที่นี่ช่างเหมาะกับคนไทยที่โหยหาความหนาวอย่างเราเป็นอย่างมาก เพราะอากาศข้างในจะอยู่ที่ -15 องศา!! แค่คิดก็หนาวแล้ว ดังนั้นใครอยากจะเจออากาศหนาวสุดขั้วก็ไม่ต้องไปถึงต่างประเทศแล้ว

ขอบคุณภาพจาก https://www.youtube.com/watch?v=XkBVBqcCDsE
อันดับ 4 Splashdown Waterpark Pattaya
จะบอกว่าที่นี่เป็นสวนสนุกก็ไม่ใช่ สวนน้ำก็ไม่เชิง เพราะเป็นที่ที่คุณจะได้พบกับความสนุกจากเครื่องเล่นบอลลูนยักษ์เป่าลม ที่เหมือนกับเด็กๆเล่น แต่เครื่องเล่นในแต่ละด่านจะทำให้คุณพบกับความสนุก หวาดเสียวได้จนคุณจะไม่มีวันลืม ช่างเป็นสวนน้ำ(สนุก)ที่เหมาะกับอากาศร้อนๆของบ้านเราซะจริงว่ามั้ยคะ?

ขอบคุณภาพจาก http://www.bahtsold.com/
อันดับ 3 For Art’s Sake
ทุกวันนี้คนเรานี่เห่อการถ่ายภาพยิ่งกว่าอะไร แต่..ถ้าคุณอยากได้อะไรที่แปลกใหม่ และไม่ซ้ำใคร เราแนะนำให้คุณมาที่ For Art’s Sake หัวหิน พิพิธภัณฑ์ภาพ 4 มิติ แห่งแรกในไทย ที่ภาพกว่า 100 ภาพในนั้นเป็นฝีมือการวาดรูปของคนไทยล้วนๆ รับรองว่าใครไปที่นี่จะต้องติดใจกับภาพสวยๆ ที่คุณสามารถถ่ายออกมาเป็นแบบ 4 มิติ ที่ไม่มีที่ไหนเหมือน

ขอบคุณภาพจาก https://forartssakethailand.wordpress.com/
อันดับ 2 สวนน้ำ Cartoon Network Amazone
เรียกว่าออกข่าวมายั่วยวนแฟนคลับการ์ตูนเน็ตเวิร์คกันซะนาน คราวนี้พอเปิดมาจริงๆ คนจึงทะลักทะล้น ก็แหม..สวนน้ำแห่งนี้ทั้งสะอาด เครื่องเล่นมากมาย แถมยังแปลกใหม่ไม่เหมือนที่อื่น และเด็กๆยังได้เจอกับตัวการ์ตูนขวัญใจอีกเพียบ แบบนี้จะไม่ให้ดังได้ยังไง!!

ขอบคุณภาพจาก http://www.beartai.com/news/
อันดับ 1 สวนน้ำ วานา นาวา
ในปีที่ผ่านมาคงไม่มีที่เที่ยวที่ไหนที่คนสนใจไปมากกว่าสวนน้ำ “วานา นาวา” แห่งนี้อีกแล้ว เพราะที่นี่เป็นเหมือนที่ที่ทำให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติ ทั้งน้ำ ทั้งต้นไม้ร่มรื่น เรื่องความสะอาดนี่ไม่ต้องพูดถึง ทั้งยังมีเครื่องเล่นนานาชนิด ที่ไม่ว่าใครได้ลองเล่นก็ต้องติดใจไปตามๆกัน ยิ่งประเทศไทยของเราร้อนๆแบบนี้ ไปเที่ยวสวนน้ำเจ๋งๆแบบนี้สักวันคงฟินไม่น้อย

ขอบคุณภาพจาก http://www.iurban.in.th/highlight/vana-nava/

10 อันดับ ของขวัญ"จับฉลาก"ที่คนไทยไม่อยากได้มากที่สุด!

ที่มา : ToptenThailand
มันมาอีกแล้วสำหรับช่วงเวลาที่หลายๆคนรอคอย (รึเปล่า) กับเทศกาลของการแลกของขวัญ การจับฉลากที่สุดแสนจะลุ้นระทึกว่าปีนี้เราจะได้อะไรกลับบ้านกันน๊า..แต่เชื่อเถอะค่ะ ว่าจะต้องมีคนที่ได้ของที่ตัวเองไม่อยากได้กลับไปครอง โดยวันนี้ทางทีมงาน Toptenthailand จึงได้นำเอา 10 ของจับฉลากที่คนไม่อยากได้มากที่สุดมาฝากกัน หวังว่าคงไม่มีอะไรที่คุณคิดจะซื้อนะคะ!!
อันดับ 10 อาหารบำรุงกำลังทั้งหลาย
เชื่อว่าทุกที่ในการจับฉลากจะต้องมีไอ้กล่องอาหารเสริมทั้งหลายนี่อย่างน้อย 1 กล่อง!! และสังเกตง่ายๆเลยจากรูปทรงสี่เหลี่ยม น้ำหนักที่หนักอึ้ง คนจับได้คงจะดีใจในตอนแรกที่เห็นว่ามันน่าจะเป็นของมีค่าแน่ๆ แต่พอเปิดมาก็ต้องถอนหายใจกันไปตามๆกัน เพราะบางคนเค้าก็ไม่กินของนี้นะคุณ!! ทั้งซุปไก่สกัด รังนกทั้งหลาย ดีไม่ดีเค้าจะคิดว่าคุณเอาของที่คนอื่นซื้อมาให้มาจับฉลากแน่ๆ

ขอบคุณภาพจาก http://www.dailynews.co.th/Content/Article/
อันดับ 9 แก้ว จาน ชามสารพัด
ไม่ใช่ว่าของพวกนี้มันไม่มีประโยชน์นะคะ แต่บางทีคนก็เอามาจับฉลากกันเยอะจนน่าเบื่อ บางคนที่จับได้เนี่ยก็แทบจะไม่ต้องซื้อจาน ชาม หรือแก้วกาแฟเข้าบ้านเลยทีเดียว!! เพราะทุกปีก็มีความเสี่ยงว่าจะจับได้ของพวกนี้..ระวังให้ดีเถอะถ้าจับได้ของหนักๆที่ห่อมาหลายๆชั้นเนี่ย หนีไม่พ้นพวกนี้แน่นอน

ขอบคุณภาพจาก http://www.postfree108.com/
อันดับ 8 ผ้าเช็ดตัว
เคยสงสัยมั้ยคะว่าทำไมคุณถึงไม่เคยจะได้ซื้อผ้าเช็ดตัวสีที่ตัวเองชอบ หรือลายที่ตัวเองชอบเลย ก็เพราะมันมักจะมาเป็นห่อของขวัญอย่างเยอะ ที่แทบจะได้กันทุกปี จนทำให้คุณไม่ต้องเสียเงินซื้อเลยล่ะ ใครที่จับได้กล่องเบาๆหน่อยนะ ใจจะเสียทันทีเพราะ 100 ทั้ง 100 มักจะเป็นผ้าขนหนู และถ้ามันคุณภาพดีจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่ใช้ไปแล้วขนหลุดตรึม!!

ขอบคุณภาพจาก https://www.timeanddate.com/holidays/world/towel-day
อันดับ 7 โคมไฟ
ข้อนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าถ้ามันเป็นโคมไฟคุณภาพดี ใครๆก็ต้องอยากได้กันทั้งนั้น แต่ส่วนใหญ่ที่เอามาจับกันเนี่ย บ้างก็เปิดไม่ติด บ้างก็แตก มีตำหนิเต็มไปหมด ดีไม่ดีเป็นโคมไฟเด็กน้อยซะงั้น แล้วแบบนี้ใครจะกล้าเอาไปใช้งานกันล่ะเนี่ย..ดังนั้นก็ช่วยตรวจสภาพก่อนห่อใส่กล่องกันด้วยนะจ๊ะ

ขอบคุณภาพจาก http://www.gadgetmashow.com/
อันดับ 6 นาฬิกา
อีกหนึ่งไอเทมสุดฮิตที่ชอบเอามาจับฉลากกันซะเหลือเกิน ไม่รู้ว่าจะเป็นการบอกเป็นนัยๆรึเปล่า ว่ามาทำงานตรงเวลาด้วยนะ!! แต่จริงๆทุกวันนี้เค้าก็ใช้โทรศัพท์ทำแทนนาฬิกากันไปแล้วล่ะคุณ..บางคนเนี่ยจับได้บ่อยจนต้องเก็บไว้เพื่อเอาไปจับฉลากต่อเลยก็มี เอ๊ะ!! หรือทุกวันนี้ที่ยังมีนาฬิกามาจับฉลากกันอยู่ก็อาจจะเป็นของค้างจากปีก่อนๆก็ได้นะ

ขอบคุณภาพจาก http://www.be2hand.com/
อันดับ 5 กรอบรูป
ถ้าเป็นสมัยเมื่อ 5-10 ปีก่อนเนี่ย คงเป็นของขวัญที่ใครๆก็อยากจะได้ แต่ตอนนี้น่ะหรอคะ ไม่มีใครเค้าถ่ายรูปแล้วไปล้างออกมากันเป็นแผ่นๆแล้วล่ะค่ะ เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีมันก้าวไกลมากแล้ว รูปทั้งหมดส่วนใหญ่ถ้าไม่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ ก็จะอยู่ในคอมพิวเตอร์ซะหมด ฉะนั้นตอนนี้กรอบรูปมันไม่มีความหมายแล้วล่ะค่ะ

ขอบคุณภาพจาก http://www.epson.co.th
อันดับ 4 กระปุกออมสิน
ถ้าเป็นตอนที่เราๆยังเด็กกันเนี่ยการจับได้กระปุกออมสินลายน่ารักๆ เป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่น้อย แต่ถ้าเป็นปัจจุบันนี้ล่ะก็ คงแทบจะอยากปาทิ้ง!! ก็แหม เดี๋ยวนี้ใครๆเค้าก็ออมเงินด้วยการฝากธนาคารกันหมดแล้ว ส่วนเหรียญทั้งหลายเนี่ยก็คงหยอดใส่ขวดน้ำยังได้เลย..จริงมั้ยคะ

ขอบคุณภาพจาก http://www.olx.co.th/member/
อันดับ 3 ตุ๊กตากุ๊กกิ๊ก
ถ้าเป็นงานจับฉลากของโรงเรียนอนุบาลล่ะก็คงมีมีใครว่าอะไร แต่ถ้านี่เป็นการจับฉลากของที่ทำงานล่ะก็..มันโอเคนะจ๊ะ ก็ดูอายุอานามไม่ใช่น้อยๆกันแล้ว และลองคิดดูว่าถ้าคนที่จับได้เป็นคุณป้าแก่ประจำแผนกแล้วล่ะก็ แกจะหลายเป็นคนที่น่าสงสารขนาดไหน ที่ต้องหอบตุ๊กตากลับบ้าน หรือแม้กระทั่งผู้ชายทั้งแท่ง ถ้าจับได้จะเอาตุ๊กตาไปทำอะไรดีล่ะ

ขอบคุณภาพจาก http://www.tukkatalovely.com/
อันดับ 2 เครื่องชามเซรามิก/กระเบื้องตั้งโชว์
สำหรับอันดับที่ 2 ของเราคงหนีไม่พ้นพวกของเซรามิกทั้งหลาย ที่เอาไว้ตั้งโชว์ อาจจะรวมพวกถ้วยชามสังคโลกไปด้วย ที่ต้องเบื่อหน่ายให้กับของพวกนี้ก็เพราะว่ามันเอาไปใช้งานอะไรไม่ได้นอกจากเอาไว้ตั้งโชว์เฉยๆ แล้วลองคิดดูสิว่าในชีวิตการทำงานของคุณถ้าต้องจับฉลาก 10 ครั้งแล้วได้ถ้วยชามพวกนี้ไป คงได้เอาไปประดับบ้านกันจนเบื่อพอดี!! ดีไม่ดีพอเอากลับบ้านก็แทบไม่ได้แกะออกมาจากห่อเลย

ขอบคุณภาพจาก http://www.siamtakeang.com/
อันดับ 1 คุกกี้กล่องแดง!!
อันดับ 1 ของเราคงหนีไม่พ้นขนมสุดฮิตที่คนมักจะนำมาจับฉลากกันก็คือ “คุกกี้” นั่นเอง โดยเฉพาะตราสีแดงๆที่มีทหารยืนอยู่เต็มไปหมด รับรองว่าแค่เห็นรูปลักษณ์ของของที่ได้คุณก็เดาออกแล้วว่ามันเป็นอะไร เพราะทุกปีจะต้องมีคนเอาเจ้าคุกกี้นี้มาจับ แล้วก็กลายเป็นว่ากินกันจนเบื่อเลยทั้งที่บ้านและที่ทำงาน..ปีนี้ถ้าใครจะซื้อก็ช่วยห่อแบบให้ความหวังกันด้วยละกัน อย่ามาแบบเดาออกนะจ๊ะไม่งั้นโดนกล่องคุกกี้ฝาดหัวแน่!!

ขอบคุณภาพจาก https://www.toptweet.org/user/jkzx_

10 อันดับอาหารยอดฮิต ที่คุณต้องลอง

ที่มา : ToptenThailand
เรามาดูกันเถอะว่าในปีที่ผ่านมาคนไทยนิยมกินอะไรกันน๊า..ทางทีมงาน Toptenthailand ได้รวบรวม 10 อันดับอาหารยอดฮิตในปี 2557 มาไว้ที่นี่แล้ว ใครที่ยังไม่เคยลองข้อไหนก็ต้องตามกันไปชิมนะคะ
อันดับ 10 ไอติมหม้อไฟ
เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้เห็นผ่านตากันมาบ้าง เพราะในปีที่ผ่านมานี่เป็นเมนูที่คนถ่ายรูปอัพลงโซเชียลเยอะแบบสุดๆ ด้วยความที่มันเมนูที่ขายไอเดีย อย่างการนำเอาไอติมเย็นๆหลากหลายรสชาติมาตักใส่ในหม้อไฟ ที่ปกติเราจะคิดแต่ว่ามันใช้ประกอบอาหารคาว และที่สำคัญยังมีการเอาน้ำแข็งแห้งไปใส่ไว้ข้างล่าง เพื่อให้มีควันผุดขึ้นมา ถือเป็นการตลาดที่ดีจริงๆ

ขอบคุณภาพจาก http://www.wongnai.com/restaurants
อันดับ 9 ซาลาเปาลาวา
เมนูนี้เริ่มมาจากที่เราไปกินมาจากต่างประเทศก่อน แล้วจู่ๆมันก็แพร่ขยายมายังบ้านเรา และแน่นอนด้วยนิสัยการเห่อของใหม่ ก็ทำเอาซาลาเปาลาวาดังเป็นพลุแตกภายในไม่ถึงเดือน ด้วยจุดขายคือการบิซาลาเปาออกมา และข้างในจะเป็นไส้(หวาน)ย้อยๆออกมาชวนน่ากิน ไม่ว่าร้านขายซาลาเปาที่ไหนก็ต้องพยายามหาสูตรมาขายให้ได้ คิดดูแล้วกันว่าขนาดเซเว่นอีเลฟเว่นยังมีขายเลยจ้า

ขอบคุณภาพจาก http://www.wongnai.com/restaurants
อันดับ 8 แฮมเบอร์เกอร์ดำ
ต้องขอบอกเลยว่าเมนูนี้มันได้มาจากฝั่งญี่ปุ่นนู้น!! ที่หันมาทำอะไรแปลกๆต้อนรับวันฮาโลวีนอย่างการทำให้แฮมเบอร์เกอร์กลายเป็นสีดำ ซึ่งแน่นอนว่าพี่ไทยก็ไม่พลาดเอามาลองทำดูบ้าง และด้วยความที่คนไทยเห็นอะไรแปลกๆใหม่ๆไม่ได้ ต้องไปลองชิมลองโดน ซึ่งด้วยรูปลักษณ์แบบนี้ รสชาติแบบนี้ก็ไม่แปลกเลยทีทำไมคนถึงสนใจตามไปชิมกันนัก

ขอบคุณภาพจาก http://www.prachachat.net/
อันดับ 7 ส้มตำถาด
ถือเป็นอีกหนึ่งประวัติการณ์ที่เราไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับอาหารอีสานรสเด็ดอย่าง “ส้มตำ” ที่แน่นอนว่าปกติก็เป็นจานโปรดของใครหลายๆคนอยู่แล้ว และเมื่อไม่นานมานี้ยังมีกระแสส้มตำถาดฟีเวอร์ คือการนำส้มตำไปใส่ในถาดและรายล้อมไปด้วยเครื่องเคียงนานาชนิด ที่ใครได้ลองก็ต้องอดใจไม่ได้กลับมากินอยู่บ่อยๆ จนแพทย์ต้องออกมาเตือนว่าถ้าถาดนั้นไม่ถูกสุขอนามัยจริงจะเกิดอันตรายได้!!

ขอบคุณภาพจาก http://www.dek-d.com/board/view/3333093/
อันดับ 6 วาฟเฟิลปลาสอดไส้ไอศกรีมโยเกิร์ต
มาถึงขนมที่กำลังเป็นที่ฮอตฮิตในขณะนี่ ที่เพิ่งมาเปิดขายในบ้านเราได้ไม่นาน นั่นก็คือร้าน Cafe Aboong ที่ส่งตรงมาจากเกาหลีนั่นเอง ด้วยความที่รวมของอร่อยไว้ถึง 3 อย่าง ทั้งวาฟเฟิลรูปปลาตัวโต ไส้คัสตาร์ดหรือถั่วแดง และซอฟท์ครีมรสโยเกิร์ต ทั้งยังตกแต่งด้วยผลไม้ฟองดูที่หน้าตาน่าทานสุดๆ แถมคนต่อคิวยังยาวเหยียด ใครไม่อยากตกเทรนด์ต้องรีบตามไปชิมนะคะ

ขอบคุณภาพจาก http://bk.asia-city.com/restaurants/bangkok-restaurant-reviews/
อันดับ 5 ชาบูนางใน
มาถึงอันดับที่ 5 ของเรากันแล้ว ซึ่งตกไปเป็นของ “ชาบูนางใน” ร้านชาบูชื่อดังที่ไม่ว่าก็ต้องเคยได้ยิน ด้วยกระแสปากต่อปาก การโพสต์ลงโซเชียลทำให้ร้านนี้ดังได้โดยที่แทบจะไม่ต้องพึ่งการโฆษณาเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าใครไปกินจะต้องติดใจในรสชาติ การบริการ และที่สำคัญราคาก็ไม่แพงเกินไปด้วย!! จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงกลายมาเป็นร้านชาบูในดวงใจของใครหลายคน

ขอบคุณภาพจาก http://bkkeatable.com/index.php/menu
อันดับ 4 ไอศกรีมไม้เท้า
อีกหนึ่งเมนูที่มาจากฝั่งเกาหลีนั่นก็คือ “ไอศกรีมไม้เท้า” นั่นเอง ที่พอเห็นครั้งแรกเชื่อว่าทุกคนคงจะสงสัยไม่น้อยว่านั่นมันคืออะไร แต่พอเห็นวิธีการทำก็ต้องร้องอ๋อ เพราะมันคือการบีบไอศกรีมสีขาวนวลลงไปในโคนที่รูปร่างเหมือนไม้เท่านั่นเอง ซึ่งตอนแรกๆที่เข้ามาใหม่เนี่ยคนต้องต่อคิวรอกินเป็นชั่วโมงๆเลยทีเดียว

ขอบคุณภาพจาก twitter.com/yonggikwang
อันดับ 3 มาการอง
เป็นขนมที่ไม่รู้ใครเรียกผิดเรียกถูกยังไงแหละ ด้วยความที่มันบินมาไกลจากฝรั่งเศสจึงไม่น่าแปลกที่ชื่อมันจะออกเสียงลำบากสักหน่อย แต่เรื่องการออกเสียงนี่ไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นมันอยู่ที่เจ้าขนมสุดหวานเนี่ยฮิตติดตลาดจนกระทั่งมีขายแทบจะทุกที่ตั้งแต่ราคาแพงสุดๆ ไปจนถึงถูกสุดๆ ทำเอาคนซื้อกินอย่างเราเนี่ยน้ำหนักขึ้นแบบไม่รู้ตัว

ขอบคุณภาพจาก http://www.digitrendy.com/
อันดับ 2 ข้าวเหนียวไก่
เมนูนี้คงไม่ต้องบอกว่ามันกลับมาฮิตติดลมบนได้ยังไง เพราะเชื่อว่าทุกคนคงรู้จักน้องล่าเหนียวไก่หายดี หลังจากที่คลิปนั้นออกมา ข้าวเหนียวไก่ของทุกร้านก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่จริงๆแล้วเมนูนี้ก็อยู่คู่กับคนไทยมาน้าน..นาน นึกอะไรไม่ออกก็เดินออกไปซื้อหน้าปากซอย ง่ายจะตาย แถมรสชาติยังถูกใจคนไทยอย่างเราๆซะด้วยสิ

ขอบคุณภาพจาก http://www.wongnai.com/reviews
อันดับ 1 ไก่บอนชอน
เมนูสุดฮิตอันดับ 1 ของเราก็คือ..”ไก่บอนชอน” นั่นเอง ร้านไก่ทอดสูตรเด็ดจากเกาหลี ที่คนเยอะตั้งแต่มาเปิดใหม่ๆ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังต้องต่อแถวเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะได้เข้าไปกินไก่รสแซ่บนี้ ซึ่งกลายมาเป็นอาหารขวัญใจวัยรุ่นทั้งหลายไปแล้ว ด้วยรสชาติที่แปลกไปจากไทยๆของเรา แถมยังมีเครื่องเคียงอื่นๆที่ทำให้เราสามารถมโนไปเองได้ว่าชั้นไปเที่ยวเกาหลีมานะ!!

ขอบคุณภาพจาก http://www.wongnai.com/reviews