Sunday, January 17, 2010

พระในบ้าน


ครั้งหนึ่งในชีวิตเป็นอย่างน้อยการได้กราบขอขมาพ่อแม่ทั้งกาย วาจา ใจ ก็จะทำให้เรามีความสุข รู้สึกว่าจิตใจเราสบายขึ้น ในส่วนตัวคิดว่าอาจจะมีเถียงท่านสมัยเป็นเด็ก เคยกราบขอขมาท่าน ท่านก็น่ารักมากให้ศิลให้พรกันใหญ่ ลองอ่านบทความต่อจากนี้ของคุณรู้ทันก็หายทุกข์ดูนะคะ ดิฉันมีโอกาสได้ทำบ้างแล้วและจะทำตลอดไปจนกว่าชีวิตนี้จะหาไม่ รวมทั้งเห็นพี่ๆก็ทำกันกับพ่อแม่แบบนี้เช่นกัน
กราบขอขมาท่านแล้ว ลองคิดหาวิธีตอบแทนท่านดูสิ คุณจะสุขใจยิ่งกว่า การสารภาพบาปและขออโหสิจากท่าน อาทิ
1) ตอนเราเป็นเด็กๆ ท่านเคยทำหรือซื้อของอร่อยๆให้เรากิน เราก็มานึกดูบ้างว่าท่านชอบรับประทานอะไร ก็ทำให้ท่านหรือซื้อมาให้ท่านทานบ้าง ตามกำลังทรัพย์ที่เรามี
2) ตอนเราเป็นเด็กๆ ท่านเคยซื้อเสื้อผ้าสวยๆงามๆให้เราใส่ เรารู้สึกดีใจ ชอบใจ ถึงตอนนี้เราก็ลองซื้อฝากท่านบ้าง ไม่ต้องซื้อมากหรอก ตามกำลังของเรา เอาแค่ไปเที่ยวที่ไหนมา พอจะซื้อมาฝากท่านได้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า หรือไม้เท้า ท่านก็คงดีใจเหมือนเราตอนเป็นเด็กๆนั่นเอง
3) มีรายได้หรือมีเงินเดือนก็เจียดเงินแบ่งให้ท่านใช้บ้าง 5% หรือ 10% ของรายได้ ก็ยังดี อันนี้เป็นอานิสงส์มากๆ จะทำให้เราไม่อดไม่อยาก เดือดร้อนก็จะมีคนมาช่วยเหลือ เจอมามากแล้ว เป็นเรื่องจริงที่แปลกที่สุด
ท่านเปรียบชีวิตเราเหมือนกับต้นไม้ ตัวเราคือลำต้น กิ่งก้านสาขาและผลไม้คือครอบครัวลูกหลานเหลน รากคือ่พ่อแม่และผู้มีพระคุณ ต้นไม้จะยืนต้นได้อย่างมั่นคงและแข็งแรง เป็นที่อาศัยของหมู่นกกา รวมทั้งเป็นร่มเงาให้ผู้ที่มาหลบฝนหลบแดด หรือเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของหมู่ลูกหลานและบริวารได้ รากของต้นไม้นั้นจะต้องได้รับการบำรุงทั้งปุ๋ยทั้งน้ำ ซึ่งจะสะท้อนไปถึงลำต้น ให้เติบใหญ่มั่นคง แข็งแรง
การบำรุงรากของต้นไม้ ก็เหมือนการบำรุงพ่อแม่ ผู้มีพระคุณแก่เรานั่นเอง จะสะท้อนให้เราเติบโตเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่มั่นคง แข็งแรง ยากที่จะล้มนั่นเอง

No comments: