Saturday, February 20, 2010

ทึ่ง!สุนัขแสนรู้

อยากมีสุนัขแบบนี้บ้างจัง เป็นคนรักสัตว์โดยเฉพาะหมากับแมว ชอบมากกกก กำลังจะได้เป็นเจ้าของสุนัขเร็วๆนี้แหละ(คาดว่า) แต่แมวนี่ซิ เลี้ยงไม่ได้เลยเพราะคนใกล้ตัวแพ้ขนแมวสุดฤทธิ์ ขนาดว่าแมวเข้ามาใกล้ๆก็เป็นผื่นแดงแล้ว ยิ่งลองได้สัมผัสรับรองผื่นแดงๆทั้งหน้าและลำตัวเต็มไปหมดเลย เคยแย้ววว
ได้เข้ามาอ่านหนังสือพิมพ์ข่าวสดออนไลน์ อยากจะบอกว่าชอบจัง เห็นหมาแสนรู้ น่ารักมากมาก แบบนี้เลยอดไม่ได้ที่จะต้องขอมาเก็บไว้ที่นี่ด้วย ขอคัดมาทุกตัวอักษรเลยดีก่า เพราะน่าสนใจและน่าติดตามทั้งนั้น
เมื่อ18ก.พ.ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีสุนัขแสนรู้ ที่วัดโพธิ์ลำแพน ม.4 ต.บ้านชุ้ง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ติดถนนสายหลวง-ภาชี ชอบช่วยเหลือพระคาบดอกไม้และซองปัจจัยไปเก็บไว้ในกุฎิและคอยเฝ้าเอาไว้ไม่ให้ใครเข้าใกล้ จึงเดินทางไปตรวจสอบ
พระอธิการรังสรรค์ จนทิโก อายุ60ปี เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ลำแพน กล่าวว่าวัดแห่งนี้มีสุนัขหลายตัว แต่ตัวที่พิเศษคือสุนัขตัวที่ชื่อทองแดง เพศผู้ อายุ2ปี เป็นสุนัขไทยพันทางสีแดงอมน้ำตาลแดง เมื่อ2ปีเป็นลูกสุนัขมาจากไหนไม่ทราบ โดนรถชนที่ถนนหน้าวัดและเดินเข้ามาร้องที่หน้ากุฎิ เกิดความสงสารเลยพาไปหาหมอรักษาจนหายและแข็งแรงดี จากนั้นก็เลี้ยงดูมาโดยตลอด พร้อมตั้งชื่อว่าเจ้าทองแดง เพราะมีขนสีแดงอมน้ำตาลสวยดี
นิสัยส่วนตัวของสุนัข คือเวลาอาตมาได้รับกิจนิมนต์ไปนอกวัด หรือรับกิจนิมนต์ไปสวดมนต์ที่พระอุโบสถหรือศาลา จะได้รับการถวายดอกไม้พร้อมซองใส่เงิน เมื่อลงจากรถยนต์หรือออกจากโบสถ์หรือศาลา เพื่อจะเดินขึ้นกุฎิ เจ้าทองแดงจะรีบวิ่งเข้ามาอาสาคาบกำดอกไม้พร้อมซองเงินทุกครั้ง โดยจะเสนอรีบมาทำหน้าที่ด้วยความเต็มใจ แบบไม่ต้องเรียก เจ้าทองแดงจะมาคาบทุกครั้ง แล้วเดินตามไปที่กุฎิ จากนั้นก็เดินตามขึ้นบันได ตรงเข้าไปในกุฎิ พร้อมนำกำดอกไม้และซองเงินไปวางที่หน้าโต๊ะหมู่บูชา ทุกครั้ง เมื่อวางเสร็จ จะนอนหมอบเฝ้า ทำแบบนี้มาเป็นเวลานาน เป็นภาพที่เคยชินต่อประชาชนที่เดินทางมาที่วัด ทุกคนบอกว่าเป็นความแสนรู้ของเจ้าทองแดง
มีอยู่ครั้งหนึ่งโยมมาทำบุญที่ศาลาและถวายซอง แต่ลืมใส่เงินในซอง พอเจ้าทองแดงคาบซองเงินแล้วไม่ได้กลิ่นเงิน ถึงกับคาบซองเงิน กลับไปคืนโยมที่ถวายซองเงิน และเอาปากฉีกซองต่อหน้าโยมที่ถวายมา ทำให้เห็นว่าในซองไม่มีเงินสร้างความประหลาดใจให้กับโยมคนนั้น จนโยมต้องยอมนำเงินใส่ซองถวายใหม่
อึ้ม...อ่านแล้วทึ่งจริงๆ ขอขอบคุณนสพ ข่าวสดออนไลน์

No comments: