| |
![]() |
รายงานข่าวกล่าวว่า ผู้ที่ทำรายได้ไต่อันดับขึ้นมามากที่สุดคือ แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กิจการอีคอมเมิร์ซ รายใหญ่ที่สุดของจีน โดยเขามีรายได้เพิ่มขึ้น 25,100 ล้านดอลลาร์ อันเป็นส่วนที่ได้มาจากการนำหุ้นอาลีบาบาออกขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อเดือนกันยายน
บิล เกตส์ แห่งไมโครซอฟต์ ยังคงเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ปี 2014 มีรายได้เพิ่มขึ้น 9,000 ล้านดอลลาร์ และมีทรัพย์สินรวมแล้วกว่า 87,600 ล้านดอลลาร์
รายงานฯ ระบุว่า ปี 2014 ที่ผ่านมา รายได้ของมหาเศรษฐีหลายคนผันผวน และไม่ทุกคนที่มีรายได้เพิ่มขึ้น อาทิ อลิเชอร์ อุสมานอฟ มหาเศรษฐีพันล้านชาวรัสเซีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันตกลง และการที่ชาติตะวันตกเริ่มมาตรการลงโทษรัสเซีย ทำให้ความรวยหดหายไปกว่า 1 ใน 3 ของที่เคยมี
ขณะที่ความร่ำรวยของมหาเศรษฐีเพิ่มมากขึ้น แต่โลกก็ยังคงอยู่ในความไม่เท่าเทียม เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ คนจนหลายล้านคนทั่วโลก ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ตกและว่างงาน ขาดรายได้
โธมัส พิเกตตี้ นักเศรษฐศาสตร์ชาวฝรั่งเศส เขียนไว้ในหนังสือ Capital in the Twenty-First Century คาดการณ์ว่า ภาษีเป็นทางที่จะบังคับให้มหาเศรษฐีโลกจ่ายเงินส่วนแบ่งที่เป็นธรรม
ด้าน แจ็ค หม่านั้น เคยกล่าวถึงโชคชะตาของเขาว่า “เขาไม่มีความสุขกับการเป็นคนรวยในจีน” โดยได้กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวต่างประเทศซีเอ็นบีซี (CNBC) ว่า “ฟอร์บส์ … ผมไม่แน่ใจว่านิตยสารไหนพูด ว่าผมเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในจีน … มันเป็นความเจ็บปวดทุกข์ใจอย่างยิ่ง”
“เมื่อคุณรวย ผู้คนจะมารายล้อมรอบตัวคุณเพื่อเงิน” แจ็ค หม่า อดีตคุณครูสอนภาษาอังกฤษที่ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจกล่าว โดยเขาเสริมว่ารู้สึกเหมือนทุกคนมองเขาอย่างแตกต่างออกไป เหมือนเซเลบคนดังมากกว่านักธุรกิจที่ต้องการรังสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่สนุกสนานให้ปรากฏขึ้นมา
หม่าสำทับว่า ตอนที่เขาเริ่มต้นก่อร่างสร้างอาลีบาบา เขาไม่ได้อยากหรือแม้แต่คิดว่าเขาจะทำเงินมหาศาลจากธุรกิจนี้เลย
“ผมต้องการเป็นนักธุกิจที่น่าเคารพนับถือ” หม่ากล่าว โดยหลังจากบริษัทก้าวสู่ความเป็นสาธารณะ มันไม่ใช่เรื่องของเขาเพียงผู้เดียวแล้ว เพราะความคาดหวังราคาหุ้นอาลีบาบาถีบตัวสูงขึ้นๆ ทำให้เขาต้องรับภาระความรับผิดชอบยิ่งขึ้นไปด้วย
ในการสัมภาษณ์พิเศษกับสถานีโทรทัศน์กลางแห่งชาติจีน (CCTV) เกี่ยวกับปรากฏการณ์ช้อปปิ้งอย่างบ้าคลั่งในวันคนโสด หม่าระบุว่า เงินรายได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา เพราะเขาห่วงระบบโลจิสติกส์ การขนส่งสินค้า สภาพอากาศ-จราจร และสิ่งอื่นนานาประการ ในการเตรียมพร้อมรับมือมวลมหานักซื้อมากกว่า
“ความทุกข์ใจ” ที่ตัวหม่าได้รู้สึกถึง … มันอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงบอกว่า การนำพา “ความสุข” สู่ประชาชนชาวจีนเป็นหนึ่งในความตั้งใจหลัก ที่อาลีบาบาจะไขว่คว้ามามอบให้ในสิบปีข้างหน้านี้ …
No comments:
Post a Comment