Friday, January 22, 2016

งานอดิเรก ยิ่งทำ ยิ่งฉลาด

มีความเชื่อผิด ๆ กันว่า ความฉลาดไม่สามารถพัฒนาได้มากนักและขึ้นอยู่กับพันธุกรรมเป็นหลัก แต่ความจริงแล้วใครจะรู้ว่าสมองสามารถพัฒนาได้ผ่านงานอดิเรกง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่จำเป็นต้องพึ่งยาเพิ่มความฉลาดหรือพึ่งติวเตอร์ที่ไหน เพียงแค่ทำกิจกรรม 9 รับรองว่าทำเป็นประจำฉลาดขึ้นแน่นอน
1.เล่นดนตรีแบบศิลปิน 

เมื่อนานมาแล้วขงจื๊อกล่าวไว้ว่า
'ดนตรีมอบความพึงพอใจที่ธรรมชาติของมนุษย์ไม่สามารถทำได้ ' 

และจากผลการวิจัยก็ระบุว่าดนตรีหรือเสียงเพลงสามารถกระตุ้นสมองของมนุษย์ได้ดี และนักวิจัยหลายคนก็ได้แสดงผลงานวิจัยที่บ่งบอกว่า ผู้ที่ทั้งฟังดนตรีและเป็นผู้เล่นเองมีพื้นที่หน่วยความจำที่มากขึ้น

นอกจากนี้การเล่นเครื่องดนตรียังเป็นการฝึกความอดทนและความพยายาม เพราะการที่จะเล่นดนตรีให้เชี่ยวชาญได้นั้น จำเป็นจะต้องทุ่มเทเวลาให้มันอย่างเต็มที่ ผลพลอยได้คือการมีสมาธิที่ดีขึ้น
2.อ่านหนังสือให้เหมือนเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้แตะมัน
เป็นความเชื่อมาตั้งแต่ไหนแต่ไรว่าการอ่านหนังสือจะช่วยเพิ่มระดับความฉลาดได้ แต่หมายถึงว่า ต้องอ่านแบบไม่ลืมหูลืมตาและอ่านหลากหลายแนวตั้งแต่ นวนิยาย ชีวประวัติ ไปจนถึงบทประพันธ์ต่าง ๆ

การอ่านหนังสือช่วยลดความเครียด ช่วยให้คุณเผชิญหน้ากับอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลายและทำให้มีความรู้ในเรื่องต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือในสถานการณ์หลากหลาย และเข้าใกล้กับเป้าหมายชีวิตในอนาคตมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกดีกับตัวเอง ไม่เพียงเท่านั้นการนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ ด้วยความรู้สึกสงบเป็นหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่แข็งแรง
3.ฝึกสมาธิเป็นกิจวัตร
ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของการฝึกสมาธิ คือ การช่วยให้มีโฟกัสและรู้จักเนื้อแท้ของตัวเอง ช่วยลดระดับความเครียดและขจัดความกังวลทั้งหลาย การฝึกสมาธิเป็นประจำทุกวัน ผู้ฝึกจะมีจิตใจที่สงบ รู้จักควบคุมตัวเอง มีความหยั่งรู้ ทำให้สามารถเรียนรู้ คิด และวางแผนสิ่งต่าง ๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากสามารถตัดสิ่งที่มารบกวนจิตใจได้

4. ออกกำลังสมอง
ร่างกายต้องการการออกกำลังกายเพื่อให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม สมองก็เช่นเดียวกัน การท้าทายสมองให้ทำสิ่งใหม่ ๆ ทุกวันจะช่วยเพิ่มความสามารถและทำให้ฉลาดขึ้น น้อง ๆ สามารถฝึกสมองได้ด้วยหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การเล่นโซโดกุ ปริศนาตามหน้าหนังสือพิมพ์ เกมกระดาน และปริศนาคำทาย
กิจกรรมดังกล่าวจะช่วยสร้างความเชื่อมโยงของสมอง ผู้เล่นจะได้เรียนรู้การตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ในลักษณะที่มีความสร้างสรรค์ พัฒนาความสามารถในการมองเห็นให้มองได้หลายมุมมอง และมีสมองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5.ออกกำลังกายก็เป็นเรื่องสำคัญ
สมองก็คือ กล้ามเนื้อในร่างกายเช่นเดียวกับส่วนอื่น ดังนั้นการมีร่างกายที่แข็งแรงก็เป็นเครื่องการันตีว่าสุขภาพสมองดี การออกกำลังอย่างเป็นประจำนอกจากจะช่วยให้สุขภาพดีแล้วยังช่วยลดความตึงเครียดและทำให้นอนหลับง่าย

ทางการแพทย์เชื่อว่า การไหลเวียนของโลหิตที่ดีไปยังสมอง หมายถึง สมองมีการทำงานที่เพิ่มขึ้น จากการศึกษาในหนูและมนุษย์ ได้แสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายสามารถสร้างเซลล์สมองใหม่ และทำให้ประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของสมองดีขึ้น
6.เรียนรู้ภาษาที่สาม
การเรียนรู้ภาษาใหม่อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าทำได้น้อง ๆ จะได้รับประโยชน์มหาศาล หนึ่งในนั้นก็คือ ทำให้ดูฉลาดขึ้น

กระบวนการของการเรียนรู้ดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์โครงสร้างไวยากรณ์และการทำความรู้จักคำศัพท์ใหม่ ๆ ซึ่งจะเป็นการท้าทายสมอง และนอกจากนี้จากผลการวิจัยพบว่า คนที่มีทักษะทางภาษาระดับสูงจะสามารถวางแผน ตัดสินใจและแก้ไขปัญหาได้ดี
7.ระบายความรู้สึกผ่านตัวหนังสือ
นอกจากการเขียนบ่อย ๆ จะเป็นการเพิ่มทักษะทางภาษาแล้ว ยังช่วยพัฒนาความสามารถในเรื่องของการโฟกัส ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และความเข้าใจ ไม่จำเป็นต้องเขียนลงในกระดาษเท่านั้น สามารถเขียนที่ไหนก็ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเขียนลงบนมือ หรือแม้แต่สร้างบล็อกของตัวเองขึ้นมา
8.ท่องเที่ยวในที่ใหม่ ๆ
การท่องเที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การลดความเบื่อหน่ายเท่านั้น แต่มันสามารถขจัดความเครียดที่สั่งสมได้ด้วย

เชื่อกันว่าหลังจากที่กลับจากทริปจะโฟกัสกับสิ่งที่ทำมากขึ้น ช่างสังเกต และมีความเข้าใจลึกซึ้งในเรื่องที่สนใจ นอกจากนี้ทุกสถานที่ที่ได้ไปยังเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้ตัวเอง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ทั้งผู้คน อาหาร วัฒนธรรม และสังคม คุณจะได้ไอเดียที่ไม่มีทางได้จากห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ
9.ลองทำเมนูอาหารหลากหลาย


คนที่ลองทำอาหารเมนูแปลกไปจากปกติ มักเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่กลัวที่จะ ลองสิ่งใหม่ ๆ และเป็นคนที่มีความใส่ใจในเรื่องของรายละเอียด สิ่งที่คุณจะได้จากการทำอาหาร คือ สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้หลากหลาย มีความแม่นยำ และตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
ที่มา http://www.lifehack.org/310690/taking-these-10-hobbies-will-make-you-smarter

Friday, January 15, 2016

International buffet and sea food buffet

        นักกินคนไหนชื่นชอบความอิ่มอร่อยแบบไม่อั้นกับบุฟเฟต์พากันมาได้ที่ ห้องอาหารเดอะเวิลด์ และ ห้องอาหารจินเจอร์ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ชวนมาอิ่มไม่อั้นไปกับบุฟเฟต์ซีฟู้ด และอาหารนานาชาติทุกค่ำคืนวันเสาร์ นำเสนอโปรโมชั่นบุฟเฟต์เติมเต็มความสุขช่วงสุดสัปดาห์ ด้วยอาหารทะเลสดๆ คุณภาพระดับพรีเมียม รสชาติหวานฉ่ำ เนื้อแน่นเต็มคำ กินได้ไม่อั้น ส่งตรงจากทะเลเสิร์ฟถึงโต๊ะอาหาร อาทิ กุ้งแม่น้ำตัวโต กุ้งลายเสือไซส์ใหญ่ กั้งทะเล ปลาหมึกยักษ์ หอยหลากชนิด ปลาหลากสายพันธุ์ อาหารทะเลอื่นๆ อีกมากมาย สามารถเลือกปรุงได้สูงสุดถึง 11 แบบ ไม่ว่าจะเป็นปิ้ง ย่าง ผัดพริก ผัดฉ่า ทอด นึ่งหรือต้ม พร้อมเสิร์ฟตามแบบที่ต้องการ ปรุงรสด้วยวัตถุดิบและส่วนผสมชั้นเลิศ ซอสหลากรสชาติให้เลือกทาน รวมถึงน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด
 และปิดท้ายด้วยขนมหวานแสนอร่อยทั้งเค้กหลากรส ไอศกรีม ขนมไทย และผลไม้ตามฤดูกาล ราคา 1,890 บาท++/คน (ไม่รวมอัตราภาษีและค่าบริการ) บุฟเฟต์อาหารทะเลเปิดให้บริการทุกค่ำคืนวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป พิเศษเติมเต็มความอร่อยกับบุฟเฟต์ไวน์เสิร์ฟไม่อั้น หรือจะเลือกเป็นซอฟท์ดริ้งตลอดทั้งคืน โทร. 0-2100-6255 

ท่องเที่ยวท้องฟ้าจำลอง




       ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา เปิดบริการ : วันอังคาร-วันอาทิตย์ ปิด : วันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ราคาบัตรเข้าชม เด็ก 20 บาท / ผู้ใหญ่ 30 บาท 
       รอบการแสดงของท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ วันอังคาร- ศุกร์ : รอบ 11.00 น. และ 14.00 น. และ วันเสาร์-อาทิตย์ : รอบ 11.00 น. และ 13.00 น. 
       การเดินทาง : รถโดยสารประจำทางสาย 2, 25, 38, 40, 72, 501, 511, 513, 508. หรือจะเดินทางโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงที่สถานีเอกมัย ออกประตู 3 เดินมาได้ไม่ไกลมาก
       
       



ขอบคุณภาพจากเวปผู้จัดการ

Thursday, January 14, 2016

การรักษากระเนื้อ โดยไม่ต้องผ่าตัด

เป็นกระเนื้อ ติ่งเนื้อ ไม่ต้องผ่าตัด ให้เสียเวลาและเสียกะตังค์
ส่วนใหญ่มันจะขึ้นเองตามธรรมชาติ ท่านใดไม่มีกระเนื้อ ที่เป็นติ่งๆที่ชอบขึ้นตามคอ รักแร้ ใต้ราวนม
ช่วงท้อง ถือว่าโชคดี แต่เมื่อเกิดขึ้นได้ เราก็กำจัดได้เช่นเดียวกัน มาดูวิธีกำจัดกันเลย
สูตร ใช้น้ำมะขาม+เบคกิ้งโซดา เอามาผสมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเอามาทาตรงที่เป็นติ่งเนื้อ
        ทาทิ้งไว้สักพัก แล้วอาบน้ำปกติ โดยไม่ต้องถูสบู่ ล้างตัวให้สะอาด
       อีก2-3วันต่อมา ติ่งเนื้อจะฝ่อและตกสะเก็ดลอก แห้งๆ จะไม่มีแผลเป็น
ถ้าไงลองดูน๊าาา
ที่ควรระวัง<ห้ามใช้กะผิวหน้า เพราะเบคกิ้งโซดาแรงงง ใช้กะผิวหน้าบางๆของเรา อาจจะพังได้

ข่าวสาวไทยรอประหาร7คนที่ประเทศมาเลเซีย

อ่านข่าวแล้วหดหู่ เอามาบอกกันจะได้ระมัดระวัง เผื่อท่านใดหลงเข้ามาอ่าน
ประเทศมาเลเซียไม่ได้น่าอยู่ อย่างที่คิด อันตรายและกฎหมายสูงมาก
ผู้หญิงต้องระมัดระวังให้มาก อาจโดนหลอกเช่นให้ไปทำงานร้านอาหาร ไปเที่ยว
ช่วยถือของ ซึ่งของที่ถือคือพวกยาเสพติด เมื่อโดนจับได้บอกได้คำเดียวว่า
ใครๆก็ช่วยไม่ได้ น่าสงสารจริงๆ
สาวไทยถูกจับที่ประเทศมาเลเซียรอประหารชีวิต 7 คน ขณะที่รอศาลตัดสินโทษ
เดียวกันอีก 10 คน ซึ่งทางการประเทศมาเลเซียประกาศเอาจริง แรงงานผิดกฎหมาย
พร้อมกวาดล้างทุกวันอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของเมืองหลวงคือกรุง กัวลาลัมเปอร์ และเมืองอื่นๆ


               นายสมพงษ์ กางทอง อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูต 
ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ขณะนี้ทางการประเทศมาเลเซียประกาศเอาจริงจับ
แรงงานต่างด้าว และการทำผิดกฎหมายในประเทศอย่างจริงจัง ซึ่งขณะนี้
คนไทยที่ทำความผิดและถูกจับในประเทศนี้ ด้วยเรื่องยาเสพติด 
มากเป็นอันดับ 2 รองจากประเทศไนจีเรีย ล่าสุด ศาลได้ตัดสินประหาร
ชีวิตแล้ว 7 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด และยังรอศาลชั้นต้นตัดสินอีก 29 คน
ในเขตกัวลาลัมเปอร์ ส่วนในเขตปีนัง ศาลตัดสินประหารชีวิตแล้ว 4 คน
 รอคำตัดสินอีก 10 คน ถ้ารวมนักโทษที่ต้องโทษประหารชีวิตทั้งหมด
ในขณะนี้ ประเทศไทยมีสูงมากเป็นอันดับหนึ่ง ..................

                  การเดินทางท่องเที่ยวตามสถานบันเทิงหรือแหล่งท่องเที่ยวโดย
เฉพาะในเวลากลาง คืน ให้ระมัดระวังคนต่างชาติโดยเฉพาะชาวแอฟริกันที่อาจ
พยายามตีสนิททำความรู้จัก กับท่าน ท่านอาจถูกมิจฉาชีพเหล่านี้ฉกชิงทรัพย์สิน
หรือชักชวนเข้าสู่ขบวนการขนยาเสพ ติด
                  ตามกฎหมายของประเทศมาเลเซีย ผู้หญิงจะเข้าไปเที่ยวตาม
สถานบันเทิงต้องมีสามีไปด้วย ดังนั้น ถ้าท่านเข้าไปเพียงลำพังมีความผิดอยู่แล้ว จึงกลายเป็นเหยื่อได้ง่าย เพราะอย่างกรณีของสาวไทยขนยาเสพติดอยู่ที่โน่น แต่งงานกับสามีชาวไนจีเรีย ซึ่งเขายอมลงทุนแต่งงานด้วย เพื่อให้ตายใจ สุดท้ายก็เลยต้องโทษประหารชีวิตเพราะขนยาเสพติดที่โน่น            

หญิงไทยที่ได้รับการชักชวนไม่ว่าจากใคร อ้างว่าไปทำงานในร้านอาหารไทย มีรายได้ดี มีที่พัก ไม่ต้องทำวีซ่า มีผู้คุ้มครอง ไม่มีค่าใช้จ่าย อย่าได้หลงเชื่อ เพราะนั่นคือขบวนการชักนำเข้าเครือข่ายค้าประเวณีประเภทจัดส่งถึงที่ (delivery) ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ค่าตัวแล้ว อาจถูกบังคับให้เสพยาไอซ์อีกด้วย         

                  จึงอยากฝากเตือนสาวไทย ที่ต้องการไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย หรือพี่น้องคนไทยจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ ให้ระมัดระวังอย่าเดินทางเข้าหรือทำงานในมาเลเซียอย่างผิดกฎหมาย เพราะช่วงนี้ มาเลเซียเอาจริง จับจริง ปรับจริง.................

ด้วยรักและห่วงใย

มะเร็ง พวกเราต้องกำจัดให้สิ้นซากแต่เนิ่นๆๆ



***มะเร็ง โรคร้าย ต้านได้ด้วย อาหาร***

"มะเร็ง" แค่ชื่อ ใครๆก็ไม่อยากได้ยินแล้ว!  แต่เราก็เลือกที่จะป้องกันได้ แค่กิน
เพื่ิอสุขภาพให้เป็น ก็ลดโอกาสเจอ  มะเร็งได้ ถึง30%แน่ะแล้วจะรอช้าอยู่ใย

มาดูอาหารป้องกัน มะเร็ง กัน 

เสริมรสชาติด้วยเครื่องเทศเด็ดๆ
 กระเทียม หอมหัวแดง หอมหัวใหญ่ มี ออร์ก้า โนซัลเฟอร์ ช่วยกระตุ้นเอนไซม์
ทำรายสารพิษ เซลล์ก็เลยต้านฤทธิ์สารก่อ มะเร็งได้ และยังมีสารยับยั้งการเติบโต
ของแบคทีเรีย ซึ่งก่อมะเร็งกระเพราะอาหาร ด้วยเลิศที่สุด ต้องยกให้ "ขมิ้น"
ที่มีสาร curcumin ต้านมะเร็งได้กว่า 20 ชนิดแน่ะ

ของว่างชั้นเลิศ ต้องถั่วเมล็ดแห้ง
จะเป็น ถั่วลิสง ถั่วแดง ถั่วเขียว หรือถั่วพิสตาซิโอ ก็ได้
เพราะอุดมด้วยสารยับยั้งเอนไซม์โปรติเอส (proteaseInhibitors) ซึ่งเป็นการ
กระตุ้นการเติบโตและการลุกลามของ มะเร็ง และยังมีกรดไฟติก ที่ช่วยกระตุ้นภูมิ
คุ้มกันและยับยั้งเลือดที่มาเลี้ยงเซลล์ มะเร็ง ด้วย แต่ต้องระวัง พวกถั่วเก่าเหม็นหืน
เพราะอาจมีสารพิษจากเชื้อรา อัลฟ่าทอ็กซินเจือปน และก่อให้เกิด มะเร็ง ได้ 

จานเด็ดเฮลตี้....ผักผลไม้ครึ่งจาน
หรือรวมกันให้ได้สัก 1/2 กิโลกรัม ต่อวัน เน้นความหลากหลาย  และ หลากสีสัน
ไว้ก่อน ยิ่งสีเค้มเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะจะมีสารกลุ่ม แคโรทีนอยด์ (เบต้าแคโรทีนลูทีน
และ ไลโคปืน) คลอโรฟินด์  แอนโทไซยานิน และอื่นๆซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ที่ยับยั้ง การเติบโตของ มะเร็ง

hot Drink! ชาเขียว
นักวิจัยจากสถาบัน มะเร็ง แห่งชาติ ของ ญี่ปุ่น และ จีน พบว่า คาเตซิน 
(Catechin)ในชาเขียวมีฤทธิ์ ต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเกิดเซลล์มะเร็ง
 และป้องกันมะเร็ง ได้หลายชนิดเลย ชงชาให้ได้ประโยชน์เต็มที่....  ล้าง
กาแฟอีน โดยแช่ใบชาในน้ำ ร้อน 1 นาที แล้วเทน้ำทิ้ง   แช่ใบชาลงในน้ำ
ที่อุ่นลงเล็กน้อย 2 นาที แล้วจิบขณะอุ่น

ที่มา......lisa




เทศกาลท่องเที่ยวเมืองไทย2559

“เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2559” ตั้งแต่วันนี้- 17 มกราคม 2559 เวลา 12.00 – 22.00 น. ณ สวนลุมพินี เปิดให้เข้าชมฟรี โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วย รถสาธารณะ รถเมล์ประจำทาง รถไฟใต้ดิน MRT สถานีสีลม รถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดง
 รายละเอียดเพิ่มเติมที่ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 


ภาพชายชาวจีนวาดอาการคนไข้ที่เขาช่วยเหลือ ส่งโรงพยาบาล

ขอขอบคุณภาพจาก พีเพิลเดลี่
เห็นว่าเป็นภาพที่น่ารักมาก ที่ชายชาวจีนคนหนึ่งวาดลักษณะอาการของของคนใข้ชาวอิตาเลี่ยน และส่งเขาไปโรงพยาบาล

Happy New Year 2016

Happy New Year 2016 and  Good morning everyone




สูตรทำความสะอาดสารพัดคราบ

สูตรทำความสะอาดสารพัดคราบ จากของในบ้าน 



         รวมสูตรน้ำยาทำความสะอาดแบบธรรมชาติจากส่วนผสมที่หาได้ในครัวเรือน แถมยังได้ผลเกินคาด ไร้ซึ่งสารพิษ แถมไม่ต้องทนดมกลิ่นเคมี ว่าแล้วก็รีบหยิบปากกากับกระดาษมาจดสูตรกันเลย 

         ร้อยแปดพันยี่ห้อน้ำยาทำความสะอาดที่ว่าดีและเด็ด เห็นผลทันตาจนน่าตกใจ หารู้ไม่ว่ามันแฝงไปด้วยสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อคนและสิ่งของ แถมยังก่อให้เกิดผลกระทบในระยะยาวอีกต่างหาก ฉะนั้นวันนี้เราจึงได้เฟ้นเอาสูตรทำความสะอาดแบบธรรมชาติที่ใช้วัตถุดิบในครัวเรือน จากเว็บไซต์homedit มาฝากกัน รับรองได้ว่าสบายใจทุกครั้งที่หยิบมาใช้ทำความสะอาด !

 1. น้ำยาถูพื้นคราบลื่นทุกชนิด
         กลิ่นหอม ๆ ในน้ำยาถูพื้นทำให้เรามัวแต่ปลาบปลื้มจนลืมไปว่ามันคือ น้ำยาเคมีที่ฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งบ้าน ถ้าไม่อยากปอดพังมาลองผสมน้ำยาเองดีกว่า โดยใช้น้ำเปล่า น้ำส้มสายชู แอลกอฮอล์ และน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่มาคนให้เข้ากันแล้วนำไปถูพื้น เท่านี้พื้นบ้านของคุณก็จะสะอาดปราศจากเชื้อโรค รู้สึกสบายเท้าทุกย่างก้าวแล้ว

 2. น้ำยากำจัดคราบเบา ๆ บนพรม

         ลมแทบจับเมื่อสายตาดันไปสะดุดเข้ากับคราบด่าง ๆ บนพรมสุดเลอค่าราคาสูง แต่ส่วนผสมของน้ำเปล่า 1½ ถ้วย ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ¼ ถ้วย น้ำส้มสายชู 1½ ช้อนโต๊ะ น้ำสบู่ 1½ ช้อนโต๊ะ และเพิ่มกลิ่นหอม ๆ ของน้ำมันหอมระเหยลงไปสัก 5 หยด พอคนทุกอย่างจนเข้ากันดีแล้ว ให้นำไปซักคราบสกปรกบนพรมแล้วล้างออก

 3. น้ำยาทำความสะอาดคราบหกบนพรมแบบร้อน

         แน่นอนว่าความซุ่มซ่ามคือศัตรูตัวฉกาจของพรมในบ้าน ทั้งคราบกาแฟหก คราบเศษอาหาร หรือแม้กระทั่งเศษฝุ่นที่ติดเท้าเราเข้ามา พร้อมที่จะก่อตัวเป็นเชื้อโรคได้ทุกเมื่อ ต่อให้ใช้สูตรเบาอย่างที่เราว่าไปก็คงจะไม่ออกง่าย ๆ งั้นลองใช้สูตรน้ำเปล่า 2 ส่วนผสมกับน้ำส้มสายชู 1 ส่วน จัดการปาดลงบนคราบ แล้วใช้เตารีดไอน้ำมาอังไว้ประมาณ 30 วินาที พรมของคุณก็จะสะอาด แถมยังฆ่าตัดตอนเชื้อโรคไม่ให้ผุดไม่ให้เกิดได้อีกด้วย

 4. น้ำยาทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมในครัว

         ถ้าเปรียบห้องครัวเหมือนคลังเสบียงเลี้ยงปากท้องพร้อมออกรบ ก็จงอย่าจบชีวิตด้วยน้ำยาเคมีที่ดีแต่อันตรายต่ออาหารเลย มาหยุดยั้งไอระเหยจากสารเคมีที่ดาหน้าเข้ามาหาเสบียงของเรา โดยการผสมเบกกิ้งโซดา ½ ช้อนโต๊ะกับน้ำเปล่าและน้ำส้มสายชูอย่างละครึ่งลงในกระบอกฉีด ปิดท้ายด้วยน้ำมันหอมระเหยกลิ่นมะนาวลงไปประมาณ 2-3 หยด เจอคราบตรงไหนของครัวก็ฉีดลงไป หลังจากนี้ก็ลงมือทำอาหารได้อย่างปลอดภัยแล้ว 

 5. น้ำยาเช็ดหน้าจออุปกรณ์ไอที
         อยากจะเปิดวิชั่นในการพิมพ์งานให้คมชัดมากยิ่งขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งน้ำยาเช็ดหน้าจอกลิ่นฉุนก็ได้ แค่เรานำน้ำส้มสายชูมาผสมกับน้ำกลั่นในปริมาณที่เท่า ๆ กันเทลงในขวดสเปรย์ ที่สำคัญต้องใช้คู่กับผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดเท่านั้น เพราะมันจะไปดักจับฝุ่นบนหน้าจอให้หายเกลี้ยงและสะอาดเนี้ยบกว่าผ้าทั่วไป

 6. น้ำยาฆ่าเชื้อโรคในวัตถุดิบอาหารก่อนปรุง

         เจ้าเชื้อโรคที่นับวันยิ่งกล้าแกร่งผลิตสายใหม่ทำให้เราต้องผวากับการใช้ชีวิตอยู่ตลอดเวลา มาจบชีวิตเชื้อโรคแปลก ๆ ในวัตถุดิบอาหาร ด้วยการนำหัวฉีดสเปรย์มาใส่ในขวดไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และขวดน้ำสายชูแทนฝาปิด จากนั้นฉีดน้ำยาไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงบนวัตถุดิบอาหาร 1 ครั้ง และตามด้วยน้ำส้มสายชูอีก 1 ครั้ง ล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดก่อนนำไปทำอาหาร ที่สำคัญห้ามผสมทั้งสองชนิดเข้าด้วยกันเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้เกิดสารเคมีชนิดใหม่ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้

 7. น้ำมันถนอมเขียงไม้และดับกลิ่นให้สิ้นซาก
         ถึงจะมั่นใจว่าวัตถุดิบสะอาดปลอดภัยไร้เชื้อโรคแล้ว แต่เขียงหั่นอาหารก็เป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่เราต้องระวังให้ดี โดยนอกจากเราจะต้องล้างและเช็ดให้ถูกวิธีแล้ว แนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำมันมะพร้าวเช็ดหน้าเขียงเอาอีกที แล้วเขียงก็จะสะอาดขึ้นเป็นเท่าตัวแถมยังดับกลิ่นคาวได้อีกด้วย


 8. น้ำยาทำความสะอาดกระจกเผยความใสวิ้ง

         กระจกใส ๆ ก็สร้างลุคดี ๆ ให้กับบ้านได้เหมือนกัน ต่อให้เอาน้ำเคมีมาใช้ก็ใสได้แค่ในระยะสั้นเท่านั้นเอง เพราะมันจะไปกัดกร่อนพื้นผิวกระจกให้ดูหมองขึ้นกว่าเดิม ถ้าอย่างนั้นลองมาใช้สูตรน้ำส้มสายชู ½ ถ้วยผสมกับแอลกอฮอล์ ½ ถ้วย และน้ำเปล่าเพียงนิดหน่อย จากนั้นคนให้เข้ากันแล้วเทใส่ขวดฉีด จะได้ใช้อย่างถนัดมือ

 9. น้ำยากำจัดคราบสบู่ในห้องน้ำล้างทุกความลื่น

         แค่ระวังเรื่องเชื้อโรคในห้องน้ำก็เครียดมากพออยู่แล้ว นี่ยังต้องมาระแวงคราบสบู่ในห้องน้ำอีก มาทำความสะอาดคราบลื่น ๆ เหล่านั้นด้วยผงบอแรกซ์ 2 ช้อนชา  น้ำสบู่น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา น้ำส้มสายชู ¾ ถ้วย น้ำร้อน 1½ ถ้วย ตามด้วยน้ำมันต้นชาสกัด 10 หยด แล้วผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่ขวดสเปรย์ ฉีดลงไปบนคราบสบู่ พร้อมทั้งใช้ฟองน้ำขัดและล้างออกให้เกลี้ยง

 10. สครับขัดอ่างอาบน้ำให้สะอาดล้ำลึก

         บอกเลยว่าน้ำยาเคมีส่งผลเสียต่อเครื่องสุขภัณฑ์ทุกชนิด ถ้าไม่อยากเสียเงินเปลี่ยนบ่อย ๆ ก็ลองทำความสะอาดด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติดูสิคะ โดยใช้ดีเกลือหรือเบกกิ้งโซดาโรยไปที่อ่างอาบน้ำ แล้วนำมะนาวหรือส้มหั่นครึ่งลูกมาขัดทำความสะอาดซ้ำลงไป รับรองว่าทั้งสะอาดและปลอดภัยไม่ทำลายพื้นผิวงาม ๆ ของอ่างน้ำแน่นอน

 11. สูตรยาสีฟันล้างคราบบนกระเบื้องหินอ่อน

         ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูขาวใสของ กระเบื้องหินอ่อน ทำให้เรามองข้ามการทำความสะอาดอย่างจริงจัง แต่ก็สามารถทำให้กระเบื้องสะอาดได้จริงจากของใช้ที่มีอยู่ในบ้าน โดยแค่ใช้ยาสีฟันชุบลงในน้ำส้มสายชู แล้วนำไปขัด ๆ ถู ๆ ที่กระเบื้องหินอ่อนให้เชื้อโรคที่ฝังตัวอยู่ตามซอกกระจายหายไปเท่านั้นเอง


 12.  น้ำยาทำความสะอาดเครื่องหนังไม่ให้ผุพังไปตามกาลเวลา
         ถ้าน้ำยาเคมีทำลายพื้นผิวแข็ง ๆ ได้ เครื่องหนังก็ไม่น่าจะรอด ลองลงมือผสมน้ำยาดูแลเครื่องหนังเองดีกว่า โดยนำน้ำส้มสายชูเทรวมกับเบบี้ออยล์ และหยดน้ำมันหอมระเหยประมาณ 2-3 หยดตามลงไป จากนั้นก็นำไปเช็ด ๆ ถู ๆ เครื่องหนังแทนน้ำยาเคมี เพียงเท่านี้เครื่องหนังก็เงางาม แถมยังใช้ต่อได้อีกนานเลยล่ะ

 13. น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ฉีดโดยตรงได้ทุกห้อง

         หากการจดจำสูตรทำความสะอาดที่ว่ามันน่าปวดหัว งั้นต้องมาลองสูตรแบบ วัน สต็อป เซอร์วิส สูตรเดียวเกี่ยวทุกห้อง ไม่ว่าจะ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว หรือห้องน้ำก็นำไปทำความสะอาดได้หมด ด้วยการนำเปลือกส้มหรือเปลือกมะนาวลงไปหมักในน้ำส้มสายชูให้ได้ที่ แล้วนำไปทำความสะอาดกำจัดคราบได้ทุกห้องที่อยู่ในบ้าน

 14. น้ำยาทำความสะอาดโซฟาบุผ้า

         ไหน ๆ ก็ซื้อโซฟาบุผ้าตัวท็อปมาเพื่อรับแขกแล้ว จะปล่อยให้มีคราบสกปรกจนรู้สึกอับอายแขกได้อย่างไร ขั้นตอนแรกให้นำน้ำอุ่นและน้ำส้มสายชูมาผสมในปริมาณที่เท่า ๆ กัน พร้อมเสริมพลังขจัดคราบด้วยน้ำสบู่สักเล็กน้อย จากนั้นก็คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วเช็ดลงไปบนคราบที่โซฟา แล้วคราบสกปรกที่ดูรกหูรกตาก็จะหลุดออกไม่หลงเหลือไว้ให้อายแขกอีกต่อไป

 15. น้ำยาทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ไม้โชว์รายละเอียด
         รายละเอียดของเฟอร์นิเจอร์ไม้คือคุณค่าที่ยากจะประเมิน ฉะนั้นอย่าวางยาทำลายมันด้วยน้ำยาทำความสะอาดแบบเคมีเลย หันมาใช้สูตรผสมจากธรรมชาติอย่างน้ำส้มสายชู ¾ ถ้วย แอลกอฮอล์ ½ ถ้วย น้ำเปล่า ½ ถ้วย หยดน้ำสบู่ 5-6 หยด และจะใช้เปลือกมะนาวกับก้านโรสแมรี่ใส่ลงไปช่วยเพิ่มกลิ่นด้วยก็ได้ค่ะ พอฉีดน้ำยาลงบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ก็เช็ดตามด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์เท่านั้น

         บอกลาน้ำยาเคมีที่คุณเคยหลงรักซะเถอะ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ไขทั้งตัวเราเองและสิ่งของภายในบ้าน แล้วหันมาทำน้ำยาสูตรธรรมชาติใช้แทนกันจะดีกว่านะคะ ^^


ขอขอบคุณข้อมูลจาก homedit