โพสต์เมื่อ : 6 พฤศจิกายน 2556 เวลา 18:50:41

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เมื่อมีเงินเก็บสักก้อน หลายคนก็เริ่มมองหาช่องทางสร้างรายได้ให้กับตัวเองด้วยการลงทุนอะไรสักอย่าง แต่ถ้าเราเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนนัก ขาดประสบการณ์ และมีเงินไม่มากพอ การลงทุนในรูปแบบ "กองทุนรวม" ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยที่จะช่วยต่อยอดความมั่งคั่งได้ เพราะมีมืออาชีพคอยดูแลการลงทุนให้ ดังนั้น ถ้าใครกำลังสนใจ และอยากทำความเข้าใจเรื่องกองทุนรวมให้มากขึ้น ตามมาทางนี้เลยค่ะ

กองทุนรวม (Mutual Fund) เป็นการลงทุนชนิดหนึ่ง โดยนำเอาเงินของผู้ลงทุนรายย่อยทั้งหลายมากองรวมกันเป็นเงินก้อนใหญ่ แล้วนำเงินนั้นไปลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ตามที่ได้ตกลงกับนักลงทุนไว้ แล้วนำไปจดทะเบียนให้มีฐานะเป็นนิตบุคคล โดยมีบริษัทจัดการกองทุนเป็นผู้บริหารจัดการแทนนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมถือว่ามีสถานะเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากบริษัทจัดการกองทุนนั้น ดังนั้น ความน่าเชื่อถือของบริษัทจัดการกองทุนจึงไม่เป็นเครื่องชี้วัดผลตอบแทน หรือหลักประกันของนักลงทุนแต่อย่างใด

การลงทุนในรูปแบบกองทุนรวมนี้ เหมาะกับผู้ที่มีเงินทุนทรัพย์จำกัด อาจจะไม่มีความรู้มากพอ ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีเวลาศึกษาข้อมูล แต่คิดอยากจะลงทุน ดังนั้น การนำเงินลงทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปร่วมกับกองทุนรวม และให้บริษัทจัดการกองทุนคอยดูแลเรื่องการลงทุน เรื่องการกระจายความเสี่ยงให้ ก็จะช่วยให้บุคคลนั้นสามารถลงทุนได้ตามใจปรารถนา โดยเมื่อลงทุนไปแล้ว ผู้ลงทุนแต่ละรายจะได้รับ"หน่วยลงทุน" เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันความเป็นเจ้าของเงิน

ในการดำเนินกิจการจัดการลงทุน จะประกอบไปด้วยบุคคลต่าง ๆ ที่มีหน้าที่กำกับดูแลกองทุนนั้น ประกอบด้วย

เป็นผู้กำหนดโครงการกองทุนรวม นโยบายการลงทุนและวัตถุประสงค์ เพื่อเสนอให้สำนักงาน ก.ล.ต. อนุมัติ โดยบริษัทจัดการกองทุนจะต้องแจ้งนโยบายการลงทุนและวัตถุประสงค์ให้ผู้ลงทุนทราบในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุนที่แจกจ่ายให้แก่ผู้ลงทุนและผู้ที่สนใจลงทุนได้ศึกษาก่อนที่จะลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทจัดการกองทุนจะต้องเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตจัดการลงทุนจากกระทรวงการคลังเท่านั้น

ก็คือบุคคลที่ร่วมลงทุนในกองทุนรวมนั้น โดยหน่วยลงทุนแต่ละหน่วยที่ถือไว้เป็นเหมือนตัวแสดงสัดส่วนความเป็นเจ้าของในกองทรัพย์สินของโครงการกองทุนรวมนั้น ทั้งนี้ ผู้ถือหน่วยลงทุนจะมีสถานะคล้ายกับผู้ลงทุนที่ไปถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนสักแห่งหนึ่ง สามารถออกเสียงเพื่อลงมติหรือดำเนินการใด ๆ ได้

เป็นสถาบันการเงินที่ได้รับมอบหมายให้คอยดูแลเงินกองทุนนั้นแทนนักลงทุนที่นำเงินมาลงทุน ทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์แทนผู้ถือหน่วยลงทุน เช่น หากบริษัทจัดการกองทุนล้ม ผู้ดูแลผลประโยชน์ก็จะชดเชยให้กับนักลงทุน หรือหากบริษัทจัดการกองทุนไม่ได้ทำตามหนังสือชี้ชวน ผู้ดูแลผลประโยชน์ก็สามารถทำหน้าที่เอาผิดบริษัทจัดการกองทุนแทนผู้ถือหน่วยลงทุนได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ชำระราคาค่าซื้อและรับชำระราคาจากการขายทรัพย์สิน เก็บรักษาทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุนรวม สอบทานความถูกต้องของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนรวม ฯลฯ
ทั้งนี้ สถาบันการเงินนั้นจะต้องมีคุณสมบัติตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด และต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมกับบริษัทจัดการ

คือ ผู้ที่ให้คำแนะนำแก่นักลงทุนและผู้สนใจลงทุนทั่วไป แบ่งออกเป็น 2 ระดับคือ


ทั้งนี้ บุคคลที่จะทำหน้าที่ดังกล่าว ต้องมีคุณสมบัติตามกฎหมายกำหนด และต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. เท่านั้น โดยต้องผ่านการทดสอบความรู้ในหลักสูตรการเป็นตัวแทนขายจากสถาบันที่สำนักงาน ก.ล.ต.เห็นชอบ และขึ้นทะเบียนรายชื่อกับสำนักงาน ก.ล.ต. ทั้งนี้ บุคคลที่จะทำหน้าที่ต้องปฏิบัติตัวตามกรอบกฎหมายกำหนด เพื่อป้องกันการขายและการโฆษณาชวนเชื่อให้ผู้ลงทุนเข้าใจผิด

คือสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ให้คอยหน้าที่ดูแลทะเบียนรายชื่อผู้ถือหน่วยลงทุน ตลอดจนสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน เช่น การจ่ายเงินปันผล และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ทั้งนี้ บริษัทจัดการอาจทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนหน่วยลงทุน สำหรับกองทุนรวมภายใต้การจัดการของตนก็ได้

คือบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้สอบบัญชี และมีชื่อขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงาน ก.ล.ต. มีหน้าที่ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของกองทุนรวม ตรวจสอบและให้ความเห็นชอบงบการเงินของกองทุนให้ถูกต้องตามมาตรฐานบัญชี ข้อสำคัญคือบุคคลนี้ต้องไม่มีส่วนเกี่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อมกับบริษัทจัดการ เพื่อป้องกันการทุจริต

เป็นสมาคมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักทรัพย์ โดยจดทะเบียนสมาคมกับสำนักงาน ก.ล.ต. มีบริษัทจัดการที่ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนรวม การจัดการกองทุนส่วนบุคคล และการจัดการกองทุนส่วนบุคคลที่เป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นสมาชิก สมาคมมีหน้าที่กำหนดจรรยาบรรณ และวางมาตรฐานในการปฏิบัติ ให้บริษัทสมาชิกยึดถือและปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกราย กำหนดบทลงโทษเมื่อบริษัทสมาชิกฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตาม

เป็นองค์กรของภาครัฐ ทำหน้าที่กำกับดูแลธุรกิจหลักทรัพย์ รวมถึงการจัดการลงทุน ออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือ ข้อกำหนดตามความในกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์

ถ้าไล่อ่านมาตั้งแต่ข้างต้น หลายคนที่อาจจะยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนกองทุนรวม อาจจะสะดุดคำว่า "หนังสือชี้ชวน" (Prospectus) แต่นี่เป็นคัมภีร์สำคัญที่ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องรู้จัก เพราะเป็นเอกสารสำคัญที่บริษัทจัดการลงทุนต้องทำขึ้น เพื่อเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับโครงการลงทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับทราบ และต้องแจกจ่ายหนังสือนี้ให้ผู้ลงทุนทุกครั้งที่จะเสนอขายหน่วยลงทุนด้วย ถือเป็นเอกสารที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย เป็นสัญญาที่บริษัทให้ไว้กับผู้ถือหน่วยลงทุน หากปฏิบัติไม่ได้ตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ
โดยทั่วไป หนังสือชี้ชวนจะประกอบด้วย "ส่วนสรุปข้อมูลสำคัญที่ผู้ลงทุนควรทราบ" และ "ส่วนข้อมูลโครงการ" ซึ่งส่วนสรุปข้อมูลสำคัญนั้น จะต้องบอกให้ทราบว่า กองทุนรวมนี้มีลักษณะอย่างไร มีนโยบายอย่างไรบ้าง ระยะเวลาการชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุน คำเตือนและข้อแนะนำ ความเสี่ยงจากการลงทุน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ฯลฯ
ขณะที่ส่วนข้อมูลโครงการนั้น จะเป็นการแจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบว่าตนเองมีสิทธิประโยชน์อะไร เงื่อนไขต่าง ๆ วิธีการวัดผลการดำเนินงาน หน้าที่และความรับผิดชอบของบริษัทจัดการลงทุน ฯลฯ

กองทุนรวมมีมากมายหลายรูปแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละลักษณะของผู้ลงทุน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเป็น "ตามแบ่งตามการจำหน่ายและรับซื้อคืน" และ "ตามนโยบายการลงทุน" ดังนี้


เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนแบบคงที่ เปิดให้จองซื้อเพียงครั้งเดียวเมื่อเริ่มต้นโครงการ มีกำหนดอายุแน่นอน ในระหว่างเวลาที่ถือหน่วยลงทุนจะไม่สามารถขายหน่วยลงทุนคืนได้จนกว่าจะครบกำหนดอายุโครงการ และไม่สามารถไถ่ถอนได้ก่อนถึงเวลาด้วย
โดยส่วนใหญ่แล้ว อายุโครงการของกองทุนรวมในประเทศไทย จะมีกำหนด 3 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี และเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน บริษัทจัดการอาจนำหน่วยลงทุนของกองทุนปิดไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดรอง (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) หรือจัดให้มีตัวแทนจัดการซื้อขาย (Market maker) เพื่อให้สามารถทำการซื้อขายได้ตลอดได้

เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้นักลงทุนแบบไม่จำกัดขนาด และเวลาในการไถ่ถอน ดังนั้น หากนักลงทุนต้องการขายเมื่อไรก็ขายได้ หรือจะเพิ่มหรือลดหน่วยลงทุนได้ตามที่นักลงทุนต้องการ ตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน เช่น ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ทุกไตรมาส ฯลฯ ดังนั้น กองทุนเปิดจึงเป็นที่นิยมมากกว่ากองทุนปิด เพราะมีสภาพคล่องมากกว่า สามารถซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์นั้น ๆ ได้เลย


เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้นักลงทุนนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารหนี้ภาครัฐบาล และตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน ผลตอบแทนจะอยู่ในรูปของดอกเบี้ยรับที่จะไปเพิ่มมูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิ (Net Asset Value) หรือ (NAV) ให้สูงขึ้น
กองทุนนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้น้อย เพราะตราสารหนี้จะให้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยที่มีความสม่ำเสมอ นอกจากนี้ แม้ว่าราคาตราสารหนี้อาจมีความผันผวนขึ้นลงตามสภาวะตลาด แต่ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยที่กองทุนรวมได้รับจากการลงทุนในตราสารหนี้ ก็ยังผันผวนไม่มากเท่ากับตราสารทุน

เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวที่มีอายุมากกว่า 1 ปี เช่น หุ้นกู้ พันธบัตร เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้น้อย และสามารถลงทุนระยะยาวได้

เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี เช่น ตั๋วแลกเงิน เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น และต้องการความเสี่ยงต่ำ

เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนในตราสารทุน ประเภทหุ้นสามัญ ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยสัดส่วนของการลงทุนต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด คือ โดยเฉลี่ยแล้วไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ทั้งนี้ เมื่อผู้จัดการกองทุนได้ลงทุนเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดดังกล่าวข้างต้นแล้ว เงินทุนส่วนที่เหลือก็สามารถที่จะนำไปใช้ลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินประเภทอื่น ๆ เช่น เงินฝากหรือตราสารหนี้ หรือจะนำเงินทั้งหมดไปลงทุนในตราสารทุนก็ได้ ผลตอบแทนที่ได้ขึ้นอยู่กับบริษัทจัดการกองทุนว่าจะเป็นผลตอบแทนประเภทจ่ายเงินปันผล (dividend) หรือจากกำไรส่วนต่าง (capital gain)
ทั้งนี้ โดยทั่วไปแล้ว กองทุนรวมตราสารแห่งทุนมีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารประเภทอื่น จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง และควรลงทุนเพื่อหวังผลที่ดีกว่าในระยะยาว

เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนในตลาดการเงิน เช่น ฝากธนาคาร หรือนำไปลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี หรือตั๋วแลกเงิน ลักษณะของกองทุนตลาดเงินจะคล้าย ๆ กับกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เพราะมีนโยบายคล้ายคลึงกัน ผลตอบแทนที่ได้จะอยู่ในรูปดอกเบี้ยรับซึ่งจะไปเพิ่มมูลค่าให้กับหน่วยลงทุนสุทธิ (Net Asset Value) หรือ (NAV) ราคาหน่วยลงทุนจะเพิ่มขึ้นนั้นเอง แต่ที่ต่างกันคือ กองทุนตลาดการเงินจะเอาเงินบางส่วนไปฝากไว้กับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยสูงอีกด้วย
ทั้งนี้ กองทุนตลาดการเงินมีความเสี่ยงต่ำสุด เหมาะสำหรับการลงทุนระยะสั้นของผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการความเสี่ยง

คือ กองทุนรวมที่สามารถลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินประเภทต่าง ๆ ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น เงินฝาก ตราสารหนี้ ตราสารทุน หรือตราสารอื่น ๆ แต่จะต้องมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนในขณะใดขณะหนึ่ง ไม่น้อยกว่า 35% และไม่เกินกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมนั้น เช่น หากหุ้นดี ผู้จัดการกองทุนอาจซื้อหุ้นได้สูงสุดคือ 65% แต่ถ้าหุ้นตกก็จะลดส่วนหุ้นลงมาเหลือเพียง 35% ส่วนที่เหลือสามารถนำไปลงทุนในตราสารอื่นได้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้จัดการกองทุนที่จะแสวงหาโอกาสลงทุนที่ดีกว่าได้
สำหรับผลตอบแทนการลงทุนนั้นก็จะอยู่ในระดับปานกลาง และความเสี่ยงก็อยู่ในระดับปานกลางเช่นกัน

เป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทต่าง ๆ แบบผสมผสานได้ทุกประเภทเช่นเดียวกันกองทุนแบบผสม แต่ไม่ได้กำหนดของเขตการลงทุนในตราสารทุนหรือตราสารหนี้ในสัดส่วนเท่าใด ดังนั้น การจัดสรรเงินลงทุนระหว่างเงินฝาก ตราสารหนี้ ตราสารทุน หรือตราสารอื่น ๆ จึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจลงทุนของผู้จัดการกองทุนตามสภาวะตลาดในขณะนั้น ๆ
กองทุนรวมประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ปานกลาง

คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนและใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวม โดยเฉลี่ยแล้วไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ส่วนเงินที่เหลืออาจนำไปลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ หรือตราสารทุนก็ได้
ข้อดีของกองทุนรวมหน่วยลงทุน คือ มีต้นทุนเฉลี่ยต่ำ เป็นการกระจายการลงทุนไปในหลายกองทุนรวมภายใต้การจัดการของหลายผู้จัดการกองทุน และหลายบริษัทจัดการ ดังนั้น จึงเป็นการกระจายความเสี่ยงได้กว้างขวางกว่ากองทุนรวมทั่วไป แต่ก็มีข้อเสียเช่นกันตรงที่มีค่าธรรมเนียมในการจัดการและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ซ้ำซ้อน

คือกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น หุ้นกู้ หน่วยลงทุน หรือหุ้นเพิ่มทุน โดยเฉลี่ยแล้วไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม และเงินส่วนที่เหลืออาจนำไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินประเภทอื่น ๆ ได้
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในใบสำคัญแสดงสิทธิมีความเสี่ยงสูง กองทุนประเภทนี้จึงมีความเสี่ยงสูงมาก

เป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่มีธุรกิจหลักประเภทเดียวกัน ตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด โดยเฉลี่ยแล้วไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
ทั้งนี้ กองทุนนี้จะลงทุนเฉพาะกลุ่มธุรกิจใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น เช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มสื่อสาร ที่คาดว่าหุ้นในกลุ่มดังกล่าวจะมีผลประกอบการดี และจะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด แต่ด้วยรูปแบบที่เป็นการลงทุนกระจุกตัว การลงทุนแบบนี้จึงมีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนรวมตราสารแห่งทุนทั่วไป


หรือเรียกสั้น ๆ ว่า "กอง 1" เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุน เพื่อนำเงินไปซื้อ หรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ อาคาร โรงแรม โรงงาน ห้างสรรพสินค้า ที่ดินที่เป็นประโยชน์ ซึ่งมักจะนำไปเช่าในระยะยาว 20-30 ปี ไม่ได้มุ่งจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อพัฒนาหรือขายต่อ โดยมีนโยบายการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในอัตราไม่ต่ำกว่า 75% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ อสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนนั้นต้องอยู่ในประเทศไทยและไม่ใช่ที่ดินเปล่า แต่ต้องเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างเสร็จแล้ว หรือก่อสร้างไปแล้วไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์นั้น
และเนื่องจากเป็นการลงทุนระยะยาว กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จึงเป็นกองทุนปิดเท่านั้น ไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน แต่บริษัทจัดการจะไปจดทะเบียนไว้ในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการซื้อขาย โดยกองทุนนี้จะมีเงินทุนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ


ผลตอบแทนที่ได้จะอยู่ในรูปของค่าเช่า ไม่ได้มุ่งจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อพัฒนาหรือขายต่อ ซึ่งจะแบ่งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปของเงินปันผล (Dividend) ในแต่ละปี

ปัจจุบัน กองทุนทองคำกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสามารถซื้อขายได้ง่าย ผ่านธนาคารที่เป็นตัวแทนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งในประเทศไทยปัจจุบันมีอยู่กว่า 20 กองทุน นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้รับเงินปันผลด้วย หากกองทุนนั้นมีนโยบายจ่ายเงินปันผล
ลักษณะของกองทุนทองคำก็เหมือนกับกองทุนรวมอื่น ๆ ที่จะรวบรวมเงินจากนักลงทุนแล้วนำไปซื้อทองคำมาเก็บไว้ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำแท่งในตลาดโลก ผู้ที่ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้ถือทองคำจริง ๆ แต่จะถือในรูปหน่วยลงทุนซึ่งผลตอบแทนที่ได้จากกองทุนทองคำคือมูลค่าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอยู่ในรูปกำไรส่วนต่าง
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจจะลงทุนกองทุนทองคำต้องระวังความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงราคาทองคำ (Price Risk) และความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Risk) อันเกิดจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินสกุลต่างประเทศอื่นด้วย

เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ ผลตอบแทนที่ได้จากกองทุนน้ำมันคือ ส่วนต่างมูลค่าของสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบที่เปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ หลายคนอาจสงสัยว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีความสำคัญอย่างไร คำตอบคือ เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง จึงไม่สามารถกำหนดราคาเองได้ เมื่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงตลาดโลกสูงและมีความผันผวน เราจึงได้รับผลกระทบในส่วนนี้อย่างเต็มที่ ดังนั้น การมีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สามารถช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ระดับหนึ่ง เพราะจะไปรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ที่ระดับหนึ่ง โดยใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจ่ายชดเชย และเมื่อราคาน้ำมันลดลงจึงเก็บส่วนที่่ชดเชยไปคืนกลับมา ซึ่งสามารถลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ และช่วยให้ประชาชนไม่ต้องจ่ายราคาน้ำมันในราคาที่สูงเกินไป

คือกองทุนรวมที่จะระดมเงินจากผู้ลงทุนในประเทศไทย ไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ทั้งในตลาดเงิน ตลาดทุน ทองคำ หรือ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่มองว่ามีแนวโน้มที่ดีกว่า เพื่อเป็นการกระจายการลงทุน และเพิ่มโอกาสในการแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศ
ทั้งนี้ ผลตอบแทนที่ได้จะต้องนำมาคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนอีกต่อหนึ่ง ซึ่งผลกำไรอาจจะเท่าทุนก็เป็นได้ถ้าขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนมาชดเชยกำไรที่ได้ ดังนั้น ความเสี่ยงของกองทุนนี้ก็คือเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน และความผันผวนระหว่างเงินสองสกุล รวมทั้งสถานการณ์ภายในประเทศที่เลือกลงทุนด้วย แต่ก็มีผลดีก็คือเป็นการกระจายการลงทุนออกไปนอกประเทศ ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงจากเศรษฐกิจภายในประเทศได้อีกทางหนึ่งด้วย

คือ กองทุนรวมที่มีนโนบายมุ่งลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อคุ้มครองเงินต้น (Principle) ของผู้ถือหน่วยลงทุน โดยผู้ลงทุนมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลตอบแทนไม่ต่ำกว่าเงินลงทุนเบื้องต้นที่ลงทุนไป หลังครบกำหนดอายุโครงการ มี 2 แบบ คือ



หมายถึงการลงทุนที่เมื่อมีการถือหน่วยลงทุนจนครบตามระยะเวลาประกันที่กำหนด แล้วบริษัทจัดการลงทุนไม่สามารถบริหารเงินลงทุนให้ได้ผลตอบแทนตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน ผู้รับประกัน (Guarantor) จะจ่ายเงินลงทุน หรือทั้งเงินลงทุนและผลตอบแทนคืนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนตามจำนวนเงินที่ได้รับประกันไว้ โดยอาจจ่ายเงินคืนเป็นบางส่วนหรือทั้งหมดก็ได้แล้วแต่กรณี

คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นสามัญจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้น โดยผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นสิ่งจูงใจในการลงทุน เพราะเงินลงทุนในกองทุนนี้สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินในปีภาษีนั้น แต่ต้องไม่เกิน 500,000 บาท และการยกเว้นภาษีเงินได้นี้ก็เป็นกำไรที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุน

เป็นกองทุนรวมที่ตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้คนออมเงินระยะยาวไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณอายุ ลักษณะคล้ายกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของภาคเอกชน และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ของข้าราชการ
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี คือ เงินลงทุนในกองทุนจะนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ในปีภาษีนั้น และเมื่อรวมเข้ากับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่ผู้ลงทุนมีอยู่ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีนี้ ให้นับตามเวลาแบบวันชนวัน ตั้งแต่วันแรกที่ได้เริ่มลงทุน

เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารทุน แต่จะให้น้ำหนักการลงทุนให้เท่ากับดัชนีนั้นๆ หรือเหนือกว่า ส่วนใหญ่จะอ้างอิงกับ SET50index บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ 50 อันดับแรกในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งวัดกันที่ขนาดมูลค่าบริษัทจดทะเบียนในตลาด หรือ Market cap ซึ่งการลงทุนในดัชนี SET50index นี้ส่วนใหญ่มุ่งที่จะชนะตลาดในระยะยาว ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้จัดการกองทุนนั้นๆ ผลตอบแทนที่ได้คือกำไรส่วนต่างราคา

เป็นกองทุนเปิดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และซื้อขายสะดวกเหมือนหุ้น เสียค่าบริหารจัดการต่ำกว่ากองทุนอื่นๆ ซึ่งเป็นข้อแตกต่างจากกองทุนอิงดัชนี (Index Fund) อย่างเห็นได้ชัด และสามารถอ้างอิงดัชนีได้หลายประเภท เช่น ดัชนีราคาหลักทรัพย์ ดัชนีราคาตราสารหนี้ ดัชนีราคาทองคำ

เป็นกองทุนประเภทกำหนดผลตอบแทนและระยะเวลาชัดเจนเป็นรูปแบบกองทุนปิดอาจลงทุนในกองทุนน้ำมัน กองทุนทองคำ หรือกองทุนต่างประเทศก็ได้

เริ่มจากบริษัทจัดการกองทุนจะออกหนังสือชี้ชวนให้นักลงทุนได้พิจารณาตัดสินใจ จากนั้นจะออกหน่วยลงทุน กำหนดราคาว่าจะขายเริ่มต้นที่หน่วยละเท่าไร หากนักลงทุนคนไหนสนใจก็จะซื้อหน่วยลงทุนนั้น ๆ เมื่อถึงกำหนดเวลา หรือเมื่อขายคืน นักลงทุนก็จะได้รับผลตอบแทนในรูปของกำไรส่วนต่าง หรือเงินปันผล หรือดอกเบี้ยรับ ส่วนลดรับ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารจัดการของบริษัท และผู้จัดการกองทุน




เงินที่คำนวณจากอัตราดอกเบี้ยที่ตราไว้ (Coupon rate) บนตราสารหนี้ และตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ ตัวอย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาล มีอัตราดอกเบี้ยที่ตราไว้ร้อยละ 7 จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน หมายความว่า ผู้ลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงิน 3.50 บาท ในเดือนมิถุนายน และธันวาคม ของทุกปี เป็นต้น และงวดสุดท้ายจะได้รับดอกเบี้ยพร้อมการชำระคืนเงินต้นเต็มจำนวน

ในราคาซื้อลด หรือในมูลค่าที่ต่ำกว่าจำนวนเงินหน้าตั๋ว (Face value) ที่ระบุไว้ว่าจะใช้คืนในวันกำหนดชำระ ตัวอย่างเช่น ตราสารหนี้ประเภท Zero coupon bond ที่ไม่มีอัตราดอกเบี้ยที่ตราไว้ จำนวนเงินที่จะชำระคืน 1,000 บาท กำหนดชำระคืนในปีที่ 5 นับจากวันลงทุน จำหน่ายให้แก่ผู้ลงทุนในอัตราผลตอบแทนจนถึงวันครบกำหนด (Yield to maturity) ที่ 7% ต่อปี ราคาซื้อของตราสารหนี้ประเภท Zero coupon bond จะคำนวณได้เท่ากับ 708.91 บาท ส่วนลดรับ จะเท่ากับ 1,000 - 708.91 = 291.09 บาท
อย่างไรก็ตาม ที่ต้องรู้ก็คือ ผู้ลงทุนอาจจะไม่ได้รับผลตอบแทนก็ได้ ในกรณีที่ขายหน่วยลงทุนแล้วไม่ได้กำไร ซึ่งกองทุนรวมจะไม่รับประกันผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับ ยกเว้นว่ากองทุนนั้นมีประกัน และนอกจากนี้ เงินส่วนแบ่งกำไรนี้จะต้องเสียภาษีเงินได้ตามกฎหมายด้วย
ได้เข้าใจข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการลงทุนกองทุนรวมแล้ว ก็อย่าลืมศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมให้มากขึ้น ก่อนตัดสินใจว่าการลงทุนประเภทนี้เหมาะกับความต้องการของเราหรือไม่นะคะ
No comments:
Post a Comment